เมื่อร่างกายเกิดปฏิกิริยาแปลกแตกต่างไปจากเดิม นั่นเข้าใจได้ว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนคุณอยู่ว่าเริ่มมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น อาการแขนขาอ่อนแรงก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือน ที่หากปล่อยไว้ไม่รักษา ระวัง! คุณจะเป็นโรคกระดูกคอเสื่อมโดยไม่รู้ตัว
สัญญาณอันตรายว่าคุณกำลังเป็น “โรคกระดูกคอเสื่อม”
อาการแสดงที่แขน : ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหรือชา อ่อนแรง บริเวณแขน ข้อศอก หรือนิ้วมือ จนผู้ป่วยไม่สามารถใช้มือเซ็นชื่อ เขียนหนังสือ เล่นดนตรี ติดกระดุม หรือทำงานละเอียดอ่อนได้เหมือนเดิม
อาการแสดงที่ขา : หากมีการกดทับของไขสันหลังผู้ป่วยจะไม่รู้สึกปวด แต่จะส่งผลต่อการเดินที่ผิดปกติ อย่างเช่น ขาตึงผิดปกติ เวลาเดินจะโคลงเคลงเหมือนล้มง่าย ก้าวสั้น เดินตามคนอื่นไม่ทัน ลักษณะการเดินคล้ายหุ่นยนต์ หากปล่อยไว้นานจะส่งผลให้เกิดกล้ามเนื้อลีบจนไม่สามารถเดินได้ในที่สุด
รักษากระดูกคอเสื่อม ด้วยการผ่าตัดผ่านกล้อง
เมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดคอเรื้อรังหรืออาการของระบบประสาทที่สืบเนื่องมาจากหมอนรองกระดูกเสื่อมรุนแรง การรักษาโดยการผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่ว่าจะในกรณีการผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกหรือการผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูก การผ่าตัดนี้จะช่วยลดอาการและแก้ไขปัญหาของระบบประสาทไขสันหลังได้
ในการผ่าตัดผ่านกล้อง แพทย์สามารถมองเห็นเส้นประสาทได้อย่างชัดเจน จึงมีความปลอดภัยสูง ช่วยลดอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดอัมพฤกษ์อัมพาตได้ แถมผู้ป่วยยังสามารถฟื้นตัวได้เร็วอีกด้วย
ดูแลตัวเองให้ดี…ก่อนเสี่ยงเป็น “โรคกระดูกคอเสื่อม”
- เมื่อต้องนั่งทำงานอยู่ท่าเดิมนานๆ ควรลุกขึ้นเดินหรือขยับร่างกายเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
- ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป และเวลาต้องอยู่ในห้องแอร์หรือเจอลมแรงๆ ควรใช้ผ้าพันคอเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้บริเวณคอ
- ควรเลือกฟูกที่ไม่นิ่มเกินไป และนอนหมอนที่มีความสูงพอเหมาะเพื่อลดการทำงานของคอ
- ไม่ควรโน้มศีรษะลงอ่านหนังสือหรือก้มเล่นโทรศัพท์ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอทำงานหนัก ควรปรับตำแหน่งให้อยู่ในระดับสายตา
- เลือกใช้แว่นสายตาให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการขยับคอบ่อยๆ ในขณะทำงานและป้องกันการเกิดคอเคล็ด
- ไม่ควรสัปหงกขณะนั่งรถ เพื่อป้องกันการเกิดคอเคล็ด
- ผ่อนคลายอาการปวดคอด้วยการนวดอย่างนิ่มนวล ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบหรือถ้าจะให้ได้ผลดี อาจใช้ผ้าชุบน้ำร้อนประคบก็ได้เหมือนกัน
เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที เมื่อมีอาการใดๆ ผู้ป่วยควรรีบเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลพญาไท 3