16 ความเข้าใจผิดเรื่องการใช้ชีวิตของคนยุคนี้….คุณหมอขอไขข้อข้องใจ

พญาไท 2

1 นาที

จ. 29/05/2017

แชร์


Loading...
16 ความเข้าใจผิดเรื่องการใช้ชีวิตของคนยุคนี้….คุณหมอขอไขข้อข้องใจ

ใครจะไปรู้ว่าความเชื่อด้านสุขภาพที่เราทำตามๆ กันมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเรื่องของการกินนั้น ทั้งหมดนี้อาจเป็นสิ่งที่เราเชื่อผิดๆ กันมาตลอด!! วันนี้…เรามีข้อเท็จจริงส่งตรงจากคุณหมอ กระเษียร มหาพล แพทย์หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลพญาไท 2 คุณหมอขอไขข้อข้องใจให้เราเคลียร์ไปเลยว่าอะไรจริง อะไรไม่จริงกันแน่!

  1. น้ำผลไม้คั้นเองไม่ใส่น้ำตาล หรือน้ำผลไม้ 100 % ที่จริงแล้วคุณรู้ไหมว่าผลไม้มีน้ำตาลธรรมชาติจำนวนมาก ถ้าดื่มแล้วไม่ออกกำลังเผาผลาญก็จะทำให้อ้วนมากกว่าดื่มนมจืดขาดมันเนยเสียอีก
  2. นมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ส่วนใหญ่ทั้งหวานและมีไขมันสูง แต่โปรตีนกลับไม่มากพอ บางแบรนด์เป็นชนิดไขมันต่ำ แต่มีน้ำตาลสูงหรือผสมน้ำผลไม้ ดังนั้นควรรับประทานแต่โยเกิร์ตรสธรรมชาติแท้ชนิดไขมันต่ำ (แต่ไม่อร่อย)
  3. ชาเขียว ถ้าเป็นชนิดหวานต้องทำให้อ้วนอยู่แล้ว ส่วนรสธรรมชาติไม่ทำให้อ้วนแต่จากการวิจัยทางการแพทย์พบว่าไม่สามารถลดความอ้วนได้ จึงไม่มีเหตุผลที่จะดื่มเพื่อลดความอ้วน
  4. เครื่องดื่มหรือวุ้นที่ทำจากบุก แต่กลับใส่น้ำตาลหรือน้ำผลไม้ ครีมผงและข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปชนิดไม่มีโคเลสเตอรอล แต่กลับมีไขมันอิ่มตัวสูง ยิ่งชนิดทรีอินวันพร้อมดื่มจะมีน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวจำนวนมาก ควรชงกาแฟ โกโก้โดยใช้นมจืดไขมันต่ำและน้ำตาลเทียมแทน
  5. ส้มตำเปล่าๆ ทุกมื้อจะได้รับแต่น้ำตาลแต่ขาดโปรตีน ควรรับประทานเพียงเล็กน้อยแล้วเพิ่มไก่ย่างไม่ติดหนังหรือหมูปิ้งไม่ติดมันและผักให้พออิ่ม โดยไม่รับประทานข้าวเหนียว
  6. รับประทานผลไม้จืดหรือเปรี้ยวแทนอาหาร 1 มื้อ เช่น ฝรั่ง แอปเปิล แก้วมังกร สับปะรด เป็นวิธีการที่ผิดอย่างร้ายแรง เพราะเปลี่ยนจากข้าว ( แป้ง ) เป็นผลไม้ ( ก็แป้งเหมือนเดิมแต่มีน้ำตาลมากกว่า ) ซ้ำยังไม่รับประทานกับข้าวซึ่งเป็นโปรตีนและผัก ร่างกายจะเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลธรรมชาติในผลไม้เหล่านี้เป็นไขมันสะสมอยู่ดี บางคนจึงไม่ลด ส่วนคนที่น้ำหนักลดเกิดจากการขาดสารอาหาร ทำให้กระดูก กล้ามเนื้อ และเลือดลดลง น้ำหนักโดยรวมจึงลดลง คนเหล่านี้จะค่อยๆป่วยหมดแรงและห่อเหี่ยวจนต้องเลิกในที่สุด และกลับปล่อยให้อ้วนเหมือนเดิมแทบทุกราย
  7. การงดมื้อเช้า หากใครที่กําลังทําอยู่ก็ควรเลิกซะ เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สําคัญมาก นอกจากจะเป็นแหล่งพลังงานให้คุณสู้งานได้อย่างไม่มีถอยแล้ว ยังช่วยให้ไม่หิวมากด้วยก่อนที่จะถึงมื้อต่อไป
  8. งดกินทุกอย่างก่อนออกกําลังกาย…ไม่ควร เพราะร่างกายต้องการพลังงานเพื่อนํามาใช้ในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นก่อนออกกําลังกาย ควรกินพวกอาหารที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (เพราะมีไฟเบอร์มากและไขมันต่ำด้วย) อย่างโยเกิร์ต นมถั่วเหลือง หรือขนมปัง
  9. หลังออกกําลังกาย ควรเว้นช่วงนานๆ แล้วจึงค่อยกิน…จริง ๆ แล้ว ไม่ต้องเว้นไว้นานขนาดนั้นก็ได้ กินหลังจากออกกําลังกายไปแล้ว 1 ชั่วโมงก็โอ.เค.แล้ว และควรเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรเชิงซ้อน เพราะจะได้ไปช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญ และช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้ดีขึ้น
  10. ขนมที่มีส่วนประกอบของโปรตีนหรือโปรตีนเชคแทนข้าว อาหารขบเคี้ยวเหล่านี้ใช่ว่าจะไม่มีแคลอรีหรือไขมันเลยนะคะ อีกทั้งโปรตีนเชคนั้นก็ไม่มีไฟเบอร์ สรุปแล้วไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้กินอาหารจริง ๆ
  11. เชื่อมั่นในฉลาก อย่าเชื่อในทุก ๆ สิ่งที่คุณได้อ่าน โดยเฉพาะฉลากที่ติดอยู่ข้าง ๆ ขวดเครื่องดื่ม เพราะยังมีอีกหลาย ๆ โรงงานที่ขาดการควบคุมที่เคร่งครัดอยู่ ทางที่ดี ก่อนซื้อควรดูองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างรวมกัน แล้วจึงค่อยตัดสินใจ
  12. กินน้อย ๆ คนส่วนมากมักจะกลัวไม่กล้ากินเยอะ จนบางครั้งพลังงานที่รับเข้าไปไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ สําหรับทํากิจกรรมนั้น ๆ อย่าลืมว่ากินได้ แต่ก็อย่าให้มากจนเกินไปนัก เพราะร่างกายจะเผาผลาญไม่ทัน เกิดเป็นไขมันสะสม แล้วต้องมานั่งกลุ้มไดเอ็ทกันใหม่
  13. ออกกําลังกายเท่านั้นคือหนทางการลดอ้วน ถึงแม้ว่าคุณจะออกกําลังกายบ่อยแค่ไหนก็ตาม แต่หากขาดการวางแผนการกินที่ดีต่อสุขภาพแล้ว การออกกําลังกายที่ทําไปก็ถือว่าสูญเปล่าได้
  14. ไม่ควรกินน้ำมากๆ ขณะออกกําลังกายผิด การเสียน้ำมาก ๆ ไม่ดีต่อร่างกายเลยโดยเฉพาะเวลาที่กําลังอยู่ในที่ร้อนๆ ฉะนั้น ระหว่างและหลังออกกําลังกายก็อย่าลืมดื่มน้ำเข้าไป ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วย
  15. ไดเอ็ทแบบอดๆ แน่นอนว่าการลดน้ำหนักแบบนี้จะเห็นผลเร็วและง่ายต่อการปฏิบัติด้วย แต่มันก็ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องนัก คุณควรหันกลับมาใช้วิธีแบบเดิม ๆ คือควบคุมอาหารและออกกําลังกายควบคู่ไปด้วยจะดีกว่า
  16. กินโปรตีนเยอะ ๆ แป้งน้อย ๆ หลาย ๆ คน อาจจะกําลังฮิตกับการไดเอ็ทประเภทนี้มาก คือ ไม่กินพวกข้าวหรือขนมปังเลย อย่าลืมสิคะว่า คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนก็มีความสําคัญต่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อนะ

แชร์

Loading...
Loading...
Loading...