การส่องกล้องตรวจท่อน้ำดีและตับอ่อน ERCP

การส่องกล้องตรวจท่อน้ำดีและตับอ่อน ERCP

เป็นวิธีการใช้กล้องส่องผ่านจากปากไปยังรูเปิดของท่อน้ำดีที่อยู่ในลำไส้เล็กส่วนต้น แล้วฉีดสารทึบแสงเข้าไปในท่อทางเดินน้ำดี ใช้เพื่อตรวจวินิจฉัย ประเมิน และรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินน้ำดีและตับอ่อน เช่นท่อน้ำดีหรือตับอ่อนอุดตันหรือตีบแคบ อันเนื่องมาจากนิ่ว พังผืด หรือมะเร็ง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปีและชายโครงขวา มีอาการตาเหลืองหรือตัวเหลือง

ข้อดีของการตรวจด้วยวิธีนี้ที่เหนือกว่าการเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์หรือแม่เหล็กไฟฟ้า (CT or MRI/MRCP) คือสามารถให้การรักษาไปได้ด้วยในคราวเดียวกัน โดยเอานิ่วที่อุดตันออก หรือเปิดปากท่อน้ำดีแล้วใส่ท่อขยายเพื่อระบายน้ำดีที่อุดตัน โดยที่ไม่มีแผลทางหน้าท้อง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดน้อยกว่า และใช้เวลาในการรักษาตัวในโรงพยาบาลสั้นกว่าการรักษาโดยผ่าตัดทางหน้าท้อง

ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องเรื้อรัง เป็นโรคอะไรได้บ้าง

อาการปวดท้องเป็นอาการที่พบบ่อยในคนทั่วไป เป็นได้หลายรูปแบบ เช่น ปวดบิดมวนเกร็งๆ แสบร้อน อืดแน่น ความรุนแรงขึ้นกับโรคที่เป็น โดยมากมักเป็นแบบเฉียบพลันแล้วหายไปในเวลาไม่นาน แต่ถ้าอาการปวดเป็นต่อเนื่อง หรือเป็นๆหายๆนานกว่า 3 เดือน ควรต้องหาสาเหตุเพิ่มเติม

สาเหตุของการปวดท้องเรื้อรังที่พบได้

  • โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะเป็นระยะเวลานาน เช่น ทานไม่ตรงเวลา ทานรสจัด ทานดึกๆ การดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบุหรี่ อาจถูกกระตุ้นด้วยความเครียด ความวิตกกังวลใจ การใช้ยาที่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร เช่นยาแก้ปวดคลายเส้น หรือการมีภาวะติดเชื้อแบคทีเรีย(Helicobacter pylori) ในกระเพาะอาหาร

อาการปวดอาจรุนแรงหรือไม่รุนแรงในแต่ละครั้ง ในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดท้องมาก ไม่ค่อยทุเลาหลังกินยาช่วงสั้นๆหรือมาพบแพทย์ด้วยอาการซีดเรื้อรัง ถ่ายอุจจาระดำ หรือมีเลือดปน

  • โรคนิ่วในถุงน้ำดี ส่วนใหญ่ของคนที่มีนิ่วในถุงน้ำดีจะไม่เกิดอาการผิดปกติ มีส่วนน้อยที่จะมีอาการทำให้มาพบแพทย์ด้วยอาการอืดแน่นท้องหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารมื้อใหญ่ หรือของมันๆ อาการในช่วงแรกมักคล้ายกับอาการของโรคกระเพาะอาหาร ทานยาลดกรดแล้วเหมือนจะช่วยทำให้อาการทุเลาลงได้ แต่อาการมักจะเป็นบ่อยและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากการอักเสบของถุงน้ำดีแบบเฉียบพลัน หรือการอุดตันของนิ่วในท่อน้ำดี
  • ตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรัง มักเกิดจากการดื่มเหล้า หรือมีนิ่วอุดตันในท่อน้ำดีหรือตับอ่อน ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้องมากเป็นพักๆร้าวไปกลางหลัง
  • ภาวะลำไส้แปรปรวน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องร่วมกับการขับถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติ อาจเป็นท้องเสียหรือท้องผูกก็ได้ อาการมักสัมพันธ์กับการทานอาหาร หรือความเครียด วินิจฉัยได้จากอาการ การตรวจเพิ่มเติมโดยการส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหาร ซึ่งส่วนมากจะไม่พบความผิดปกติ
  • ภาวะภูมิแพ้อาหาร โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง พบไม่บ่อยในคนไทย มักมีอาการท้องเสียเรื้อรัง ถ่ายอุจจาระมีมูกเลือดปน
  • ภาวะติดเชื้อเรื้อรัง เข่นเชื้อพยาธิ วัณโรค มักจะมีอาการท้องเสียร่วมด้วย
  • ภาวะพังผืดรัดลำไส้ มักพบในผู้ที่เคยมีประวัติผ่าตัดในช่องท้องมาก่อน ผู้ป่วยจะมีอาการอืดแน่นท้อง ปวดท้องมากเป็นพักๆ ถ่ายอุจจาระไม่ค่อยสะดวก
  • ไส้ติ่งอักเสบเรื้อรัง
  • โรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร ตับ ตับอ่อนและลำไส้ใหญ่ อาการทีพบขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็งที่ตำแหน่งไหน
  • โรคระบบอื่นๆ ที่นอกเหนือจากระบบทางเดินอาหาร เช่นนิ่วในไต ทางเดินปัสสาวะอักเสบเรื้อรังอาการปวดท้อง

เนื่องจากปวดประจำเดือน โรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกในมดลูกหรือชีสต์ที่รังไข่

สาเหตุของการปวดท้องเรื้อรังมีมากมาย ในระยะแรกๆ อาการปวดของแต่ละโรคอาจมีลักษณะคล้ายคลึงกัน และอาการปวดอาจดีขึ้นด้วยการรับประทานยาเหมือนๆ กัน อย่างไรก็ดี ถ้าผู้ป่วยสังเกตว่าอาการปวดท้องมีความรุนแรง และเป็นถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทานยาแล้วไม่ค่อยทุเลา หรือมีความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่นไข้ รับประทานอาหารได้น้อยลง มีคลื่นไส้อาเจียน น้ำหนักลดลง ซีด ลักษณะการถ่ายอุจจาระผิดปกติไปจากเดิม ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ซึ่งการวินิจฉัยโรค อาจทำได้ตั้งแต่การซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด หรือร่วมกับการตรวจพิเศษเช่น การเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารหรือลำไส้ใหญ่ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างถูกต้องต่อไป

 

นพ. นัทธิวุธ วัฒนารักษ์สกุล
อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินอาหาร
ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลพญาไท 2


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...