อาการปวดหลังเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับคนวัยทำงาน ที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ หรือนั่งผิดท่า บางคนมีอาการปวดเล็กน้อยสามารถหายได้เอง แต่บางคนก็ปวดมากจนกลายเป็นอาการ “ปวดหลังเรื้อรัง” ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้ ทั้งนี้จึงควรทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดหลัง เพื่อจะได้หาทางรักษาได้อย่างทันท่วงที!
ทำไมถึง “ปวดหลัง” ?
ปวดหลังเป็นอาการปวดเมื่อย ตึง ร้าว หรือเจ็บที่หลัง อาจเกิดจากการที่กระดูกสันหลังอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้องเป็นระยะเวลานานๆ เช่นการนั่งทำงาน หรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่จัดวางไม่เหมาะสมกับ สัดส่วน สรีระ ของผู้ใช้งาน หรือบางรายอาจมีการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้อง เช่น มีการยกของหนัก หรือ บิดคอ บิดหลัง เมื่อปล่อยไว้ก็เป็นสาเหตุให้เกิดการ “ปวดหัวเรื้อรัง”
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง
- ขาดการออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลังไม่แข็งแรงพอจะรองรับกระดูกสันหลัง
- โรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ทำให้กระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักมาก
- การทำงานที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ
- การทำงานที่ต้องนั่งเป็นเวลานานๆ เช่นพนักงานออฟฟิศ นั่งทำงานกับพื้น เป็นต้น
- งานที่มีความสั่นสะเทือนเช่น ขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์
- ผู้ทีมีสภาวะเครียด หรือวิตกกังวล
อาการเหล่านี้พบได้จากการปวดหลัง
- มีการอาการปวดที่หลัง หรืออาจร้าวไปถึงสะโพกหรือขา
- มีอาการปวดตามบริเวณซึ่งถูกเลี้ยงด้วยเส้นประสาทที่กดทับนั้น
- มีอาการปวดเหมือนเป็นเหน็บชา ไม่มีแรง
- มีอาการปวดตลอดเวลาหรือปวดเฉพาะในบางท่าเช่น ไอ จาม หรือบิดตัว
- ปัสสาวะลำบาก หรือมีอาการชาบริเวณหลังหรืออวัยวะเพศ
รักษาตามอาการ…แต่ไม่ต้องผ่าตัดเสมอไป
การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังแบบเรื้อรังนั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เป็นและลักษณะความเสียหายของโครงสร้างกระดูก แบ่งเป็น 3 วิธี ได้แก่
- การรักษาแบบประคับประคอง เช่น กายภาพบำบัด การรับประทานยา เพื่อบรรเทาอาการอักเสบหรืออาการปวด
- การรักษาโดยการผ่าตัด ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้ หรือกรณีที่จำเป็นต้องแก้ไขโครงสร้างกระดูก
- การรักษาแบบหัตถการ โดยไม่ต้องผ่าตัด (Spine Intervention)
4 วิธีรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด…ก็หายปวดหลังได้
- ฉีดยาเฉพาะที่เพื่อระงับการปวดเฉพาะที่ (Selective Nerve Root Blocks; SNRB) สามารถทำได้บริเวณกระดูกคอและกระดูกสันหลัง เช่น การฉีดยาเข้าไปในโพร่งรากประสาท หรือการฉีดยาเข้าที่หลัง (Epidural Steroid Injection)
- ใช้คลื่นเสียงซ่อมหมอนรองกระดูก (Nucleoplasty) เป็นการปล่อยพลังอย่างอ่อนไปทำให้ของเหลวลักษณะคล้ายเจลที่อยู่ในกระดูกสันหลังหดตัวลง สามารถลดการกดทับเส้นประสาทได้
- ฉีดสารซีเมนต์เหลวซึ่งทำหน้าที่แทนกระดูกเพื่อรักษาภาวะกระดูกทรุดจากกระดูกพรุน (Vertebroplasty) ผู้ป่วยโรคนี้กระดูกจะโปร่ง บางเป็นโพรงและมีช่องว่างอยู่ มักรู้สึกเจ็บเวลาเคลื่อนไหว โดยแพทย์จะฉีดสารซีเมนต์เข้าไปในปล้องกระดูกสันหลัง เพื่อเติมช่องว่างในกระดูกให้หนาแน่นเหมือนเดิม ซึ่งแพทย์จะมองเห็นภาพกระดูกและการเคลื่อนของสารซีเมนต์ตลอดเวลาผ่านการเอ็กซเรย์ชนิดพิเศษ (C-Arm) ซีเมนต์จะแข็งตัวใน 5 นาทีและทำหน้าที่แทนกระดูก วิธีนี้ปลอดภัยสูงและผู้ป่วยจะหายปวดทันที
- ใส่บอลลูนขยายช่องกระดูกสันหลัง (Balloon Kyphoplasty) เพื่อลดการโก่งงอของกระดูกสันหลัง แล้วฉีดสารซีเมนต์ตามเข้าไปแทนที่บอลลูน เพื่อให้ซีเมนต์ทำหน้าที่แทนกระดูก ซึ่งหลังจะตรงขึ้น
เมื่อมีอาการปวดหลังควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจหาสาเหตุ และทำการรักษาอย่างตรงจุด เพื่อลดอาการปวดทรมาน ลดโอกาสพิการและทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น!