ขนาดของฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 นั้นเล็กมากจนสามารถลอดผ่านจมูกเข้าไปในปอดและดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ อาการป่วยที่เกิดขึ้นจึงอาจไม่ใช่แค่ จาม คัน คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา เหมือนอาการภูมิแพ้ทั่วไป แต่อาจทำให้เกิดอาการหอบหืด มีอาการระบบทางเดินหายใจ หรือการอักเสบที่หลอดลม ซึ่งจะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ซึ่งมักตอบสนองต่อฝุ่นและมลพิษได้ไว…และรุนแรงกว่าคนทั่วไป
เด็กกลุ่มไหน…โอกาสเสี่ยงโรคภูมิแพ้ในเด็กสูง
โรคภูมิแพ้อากาศในเด็ก หรือภูมิแพ้เยื่อบุโพรงจมูก คือโรคที่มีการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก เกิดจากการกระตุ้นของสารก่อภูมิแพ้ในระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ร่างกายตอบสนองโดยการสร้างภูมิคุ้มกันชนิดนั้นๆ ขึ้นมาต่อสู้ ส่วนใหญ่พบในเด็กอายุประมาณ 3 – 4 ขวบขึ้นไป และเด็กที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้จะมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ เพราะจะมีการกระตุ้นของสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม
อาการแสดงเบื้องต้นของโรคภูมิแพ้อากาศในเด็ก
สำหรับอาการที่บ่งชี้ว่าลูกอาจเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ได้แก่ จาม คัน คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา รวมถึงอาการแพ้เมื่อตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมหรือสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น เมื่อสัมผัสไรฝุ่น ขนสุนัข ขนแมว หญ้า หรือเชื้อรา เป็นต้น
ลูกเป็นโรคภูมิแพ้อากาศหรือไม่? รู้ได้ด้วยการตรวจนี้
หากไม่แน่ใจว่าอาการที่ลูกเป็นอยู่ จะใช่โรคภูมิแพ้อากาศหรือไม่ สามารถตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดได้โดยวิธีสะกิดผิว (Skin Test) เพื่อตรวจความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ หรือการเจาะเลือดเพื่อดูค่าการแพ้ในเลือด ซึ่งการตรวจหาโรคภูมิแพ้อากาศในเด็กนั้น แพทย์แนะนำใหตรวจเมื่อเด็กอายุ 3 – 4 ปีขึ้นไป เพื่อผลการตรวจที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด แต่หากเด็กมีอาการแพ้ชัดเจนหรือต้องการทดสอบ แนะนำให้ตรวจเมื่อเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป
ผลกระทบเมื่อเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ…ต้องเจอกับฝุ่น PM 2.5
อากาศที่เต็มไปมลภาวะ ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากการสัมผัสหรือสูดดมเอาฝุ่นจิ๋วเข้าไปในร่างกายแบบเลี่ยงไม่ได้ โดยอาการที่เกิดขึ้นจะมีตั้งแต่ คันตา แสบตา คันจมูก คันผิวหนัง ไปจนถึงเลือดกำเดาไหล แต่สำหรับเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศอยู่ก่อนแล้ว จะมีอาการแสดงที่ไวและรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรสังเกตลูกๆ ของท่าน หากมีอาการแสดงต่อโรคภูมิแพ้อากาศที่เปลี่ยนไป ควรรีบพามาพบแพทย์ เพื่อตรวจหาว่าได้รับผลกระทบที่ส่วนใดบ้าง ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง เยื่อบุจมูก ปอด ถุงลม ซึ่งอาจมีผลทำให้ถุงลมตีบแคบ หรือถุงลมอักเสบ เป็นต้น
เมื่อฝุ่นจิ๋วทั่วเมือง! นี่คือเคล็ดลับการดูแลเด็กที่เป็นภูมิแพ้อากาศ
สภาพอากาศแย่เพราะฝุ่นจิ๋ว อาจทำให้สุขภาพโดยรวมของเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศแย่ลงไปด้วย อีกทั้งขนาดของฝุ่น PM 2.5 นั้นเล็กมาก จนอาจไม่ได้เกาะอยู่ที่จมูกเท่านั้นแต่อาจลงลึกไปถึงปอดด้วย การล้างจมูก จึงเป็นหนึ่งวิธีที่พอจะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้อากาศในเด็กได้บ้าง ที่สำคัญคือการใส่หน้ากากอนามัย N95 ทุกครั้งที่ต้องออกจากตัวอาคาร ในกรณีที่หาซื้อหน้ากาก N95 ไม่ได้ สามารถใช้หน้ากากอนามัยแบบปกติ 1 – 2 ชั้น และใช้กระดาษทิชชูแปะอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้สามารถกรองฝุ่นบางส่วนได้ และสำหรับเด็กที่แพ้ฝุ่นจนมีอาการตาแดงหรือเคืองตา แพทย์แนะนำให้ใส่หน้ากากกันฝุ่น (Goggle) เพื่อช่วยลดโอกาสฝุ่นเข้าตา
แพ้อากาศรุนแรงขั้นไหน ผู้ปกครองควรรีบพามาพบหมอ
จุดสำคัญที่ผู้ปกครอง หรือพี่เลี้ยงควรสังเกตเด็กๆ คืออาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ไอมากกว่าปกติ แน่นหน้าอก มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ หรือคัน คัดจมูกมากขึ้น อาจต้องพาเด็กมาพบแพทย์ เพราะในสภาวะอากาศเช่นนี้ เด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศบางคน อาจจำเป็นต้องทานยาเพื่อช่วยบรรเทาและควบคุมอาการภูมิแพ้อากาศจนกว่าอากาศจะกลับมาสู่ภาวะปกติ
พญ.จินตนา ชาตรูปวิจิตร
กุมารเวชศาสตร์อนุสาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน
ศูนย์สุขภาพเด็ก อาคาร B ชั้น 2 โรงพยาบาลพญาไท 2
โทร.02-617-2444 ต่อ 3219-3220