ควรทำอย่างไร เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ

ควรทำอย่างไร เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ

ในชีวิตประจำวัน เราอาจมีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยที่หมดสติได้ตลอดเวลา และสิ่งที่มักเกิดขึ้นในความคิดของผู้ช่วยเหลือ ก็คือ เราจะต้องทำอย่างไรเมื่อพบเจอเหตุการณ์นี้ หรือ เราจะช่วยเหลือเขาอย่างไรให้ปลอดภัย หรือบางท่านก็อาจจะกลัวจนไม่กล้าทำอะไร ฉะนั้นถ้าไม่อยากลังเลในการช่วยเหลือผู้ป่วย เรามาเรียนรู้ขั้นตอน และวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมกัน

  1. ต้องทำการตรวจสอบว่า บุคคลนั้นหมดสติจริงๆ ไหม ด้วยการเรียกผู้ป่วย เนื่องจากผู้ประสบเหตุบางรายแค่ง่วงซึม เราจึงควรเรียกผู้ป่วยด้วยเสียงอันดังพร้อมทั้งเขย่าบริเวณบ่า แต่ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยอุบัติเหตุ เพราะอาจทำให้การบาดเจ็บมากขึ้นได้
  2. หากผู้ป่วยมีระดับความรู้สึกตัวที่ดี ให้รีบส่งผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาล เพื่อหาสาเหตุของโรคและทำการรักษาตามขั้นตอน โดยสาเหตุที่มักทำให้ระดับการรู้สึกตัวของผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงไปมีได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือภาวะที่มีกดเบียดของเลือดในสมอง ดังนั้นไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรส่งผู้ป่วยไปทำการรักษาต่อในโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
  3. แต่หากเรียกด้วยเสียง และเขย่าตัวเรียกผู้ป่วยอย่างเหมาะสมแล้ว ผู้ป่วยยังคงหมดสติ ให้คลำหาชีพจรบริเวณคอ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีเส้นเลือดแดงที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองอยู่ใต้ผิวหนัง จึงคลำได้ง่าย
  4. หากพบว่าผู้ป่วยมีชีพจร ให้ทำการส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อหาสาเหตุของการหมดสติอย่างเร่งด่วน
  5. แต่หากพบว่าผู้ป่วยไม่มีชีพจรแล้ว ให้ทำการกดหน้าอกเพื่อทำการช่วยชีวิตเบื้องต้นทันที ด้วยการกดหน้าอกที่บริเวณกึ่งกลางหน้าอก และลึกลงไปประมาณ 2 นิ้ว และความเร็วในอัตรา 100 ครั้งต่อนาที หากผู้ป่วยยังไม่ได้รับการทำการช่วยชีวิตขั้นสูง ให้กดหน้าอกสลับกับการเป่าปาก 30 ครั้ง ต่อการเป่าปาก 2 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง
  6. บุคคลอื่นที่ไม่ได้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน ให้ช่วยตามหน่วยกู้ชีพขั้นสูงทันที ด้วยการโทรเบอร์ 1669 หรือ เบอร์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลต่างๆ โดยแนะนำให้เป็นโรงพยาบาลที่ใกล้สถานที่ที่เกิดเหตุมากที่สุด
  7. ในระหว่างที่ผู้ประสบเหตุอยู่ในการดูแลของผู้ช่วยเหลือ อย่าปล่อยให้ผู้ประสบเหตุอยู่คนเดียว และที่สำคัญไม่ควรให้อาหารหรือน้ำในขณะที่ผู้ป่วยหมดสติ เพราะอาจทำให้สำลัก จนส่งผลกระทบต่อระบบการหายใจได้

ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยให้ท่านสามารถทำการช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุได้อย่างมั่นใจ รวดเร็ว และถูกต้อง เพราะ เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเราจะเจอผู้ประสบเหตุเมื่อใด และวันหนึ่งผู้ประสบเหตุก็อาจจะเป็นเรา

คุณศิริกาญจน์ เต่าทอง
ผู้จัดการแผนกฉุกเฉินและอุบัติเหตุ
ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา


แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




บทความแนะนำ

ทำไม? “ผู้สูงวัย” ถึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรค “งูสวัด”

พญาไท 2

ในขณะที่อายุเพิ่มมากขึ้น ภูมิต้านทานก็ยิ่งลดลง ซึ่งช่วงที่ร่างกายอ่อนแอนี่แหละ ที่เปิดโอกาสให้ "โรคงูสวัด" ที่มีเชื้ออยู่ในตัวเราทุกคนที่เคยเป็นอีสุกอีใสออกมาทำร้าย สร้างความทรมานในการใช้ชีวิต

เตือนภัย! โรคยอดฮิต ในหน้าหนาว ที่ต้องระวัง

พญาไท 2

หน้าหนาว เป็นช่วงของเวลาที่อากาศจะเย็นลงจากเดิม และในบางพื้นที่อาจจะเย็นลงโดยเฉียบพลัน ทำให้อุณหภูมิภายในร่างกาย ของเราต้องปรับอย่างรวดเร็ว เพื่อรับกับอุณหภูมิภายนอก จากสภาวะอากาศแบบนี้ ทำให้เกิดโรคได

เช็คลิสต์ “วัคซีนผู้ใหญ่” สร้างเกราะป้องกันไว้ เพื่อ “ชีวิตผู้สูงวัย” ที่ดีกว่า

พญาไท 2

วัคซีนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่เด็ก เพราะผู้ใหญ่ หรือผู้สูงวัยเองซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ ร่างกายอ่อนแอ ทำให้มีโอกาสเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย ซึ่งการฉีดวัคซีนนั้น จะช่วยป้องกันหร

วัคซีนไข้เหลือง (Yellow Fever)

พญาไท 2

โรคไข้สมองอักเสบ ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตและเป็นโรคที่รักษายาก ที่สำคัญเมื่อเป็นแล้วมีอัตราการตายสูง หากรอดชีวิตมักมีความพิการหรือผิดปกติทางสมองตามมา อัตราป่วยตายอยู่ระหว่างร้อยละ 20-30 ประมาณสองในสาม