ขึ้นชื่อว่ามะเร็ง แน่นอนว่าใคร ๆ ก็กังวลกันอย่างแน่นอน และหนึ่งในประเภทของโรคมะเร็งที่มีอัตราการเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมะเร็งลำไส้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งมะเร็งลำไส้ถือได้ว่าเป็นภัยเงียบที่อาจจะไม่ได้แสดงอาการออกมาให้เห็นเด่นชัดมากนัก กว่าผู้ป่วยจะทราบก็อาจจะลุกลามไประยะท้าย ๆ แล้ว ซึ่งการป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อจิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอีกด้วย

2 ประเภทของมะเร็งลำไส้

มะเร็งลำไส้สามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้ 2 ประเภท ซึ่งสามารถแยกได้ตามตำแหน่งที่เกิดขึ้น ดังนี้ :

มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) : เกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหลักของระบบย่อยอาหารที่ทำหน้าที่ดูดซึมน้ำและสารอาหาร มะเร็งในบริเวณนี้มักเริ่มต้นจากเนื้องอกเล็ก ๆ (Polyps) บนผนังลำไส้ที่เจริญเติบโตและอาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งในระยะยาวได้

มะเร็งลำไส้ตรง (Rectal Cancer) : เกิดในบริเวณทวารหนักซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายของลำไส้ใหญ่ที่ทำหน้าที่เก็บกักของเสียก่อนขับถ่าย มะเร็งบริเวณนี้มักมีลักษณะการเจริญเติบโตและการกระจายตัวที่แตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้

โดยทั่วไปถ้ากล่าวถึงปัจจัยของการเกิดมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ หรือมะเร็งอื่น ๆ มักจะมีปัจจัยมาจาก

หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

ประวัติของคนในครอบครัว : เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติใกล้ชิดที่อาจจะเคยป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ เพราะโรคนี้สามารถถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมได้ หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีประวัติเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือติดเชื้อไวรัสบางชนิดในระบบทางเดินอาหารก็เสี่ยงเช่นกัน
อายุ : ค่าเฉลี่ยของคนที่อาจป่วยเป็นมะเร็งลำไส้มักจะพบในวัย 50 ปีขึ้นไป แต่ ณ ปัจจุบันคนวัยหนุ่มสาว
ก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ได้ง่ายขึ้นมาก
พฤติกรรมการใช้ชีวิต : ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่กากใยต่ำ กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูปอยู่เสมอ สิ่งแวดล้อมที่อยู่รวมถึงพฤติกรรมอื่น ๆ เช่นไม่ออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่พอเหมาะ

อาการมะเร็งลำไส้

อย่างไรก็ตาม ตามที่กล่าวไปข้างต้นถึงแม้ว่าอาการมะเร็งลำไส้จะไม่ได้แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน หรือในทันที หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ก็ควรที่จะเข้ารับการตรวจเช็กร่างกายเพื่อหาสาเหตุว่าแท้จริงแล้วเป็นอาการของโรคนี้หรือไม่ เพราะบางทีสัญญาณต่าง ๆ ที่แสดงออกมานั้นอาจจะเป็นอาการของโรคอื่น ๆ อย่างริดสีดวงทวาร โรคลำไส้แปรปรวน หรือโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังนั่นเอง

7 สัญญาณเตือน มะเร็ง ลำไส้ แบบไหนควรพบแพทย์? สามารถสังเกตได้จากสัญญาณดังต่อไปนี้

ท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืดหรืออุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ ต่อเนื่องนานหลายวัน
มีอาการปวดท้องเกร็งบริเวณช่วงล่าง หรือมีอาการหน่วงท้องน้อย เป็นเวลานานโดยไม่ทราบสาเหตุ
ถ่ายเป็นเลือด มีเลือดปนในอุจจาระ
อาเจียนผิดปกติ เช่นอาเจียนหลายครั้งภายใน 24 ชั่วโมง
น้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีสาเหตุที่ทำให้ลด
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหนื่อยง่ายขึ้น
มีอาการหอบ หายใจถี่ขึ้นเรื่อย ๆ

หากพบว่ามีอาการดังกล่าวแม้จะเพียง 2-3 หรืออาการเดียว แต่หากเป็นซ้ำ ๆ ต่อเนื่องนานหลายวันนั่นหมายความว่าควรที่จะรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียด เพื่อทราบถึงโรคที่เป็นจะได้ทราบข้อมูลการดูแลรักษาอย่างถูกต้องด้วย

ปวดท้องแบบไหนเสี่ยงมะเร็งลำไส้?

การปวดท้องของใครหลาย ๆ คนอาจจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณ ที่บ่งชี้ว่าเป็นหนึ่งในอาการเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ เพราะฉะนั้นใครที่มีอาการปวดบ่อย เพราะทานอะไรไม่ระวัง หรือแน่นท้องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะถ้ามีอาการปวดที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ปวดเรื้อรัง และอาการไม่หายไปง่าย ๆ แม้จะทานยาแก้ปวดทั่วไป ก็ควรที่จะรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิฉัย อย่างเร็วที่สุด เพื่อป้องกันและรักษาให้ทันท่วงที

การตรวจวินิจฉัยของโรคมะเร็งลำไส้ มีวิธีการใดบ้าง?

ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)

ถือได้ว่าเป็นวิธีตรวจที่แม่นยำที่สุด โดยจะทำการส่องกล้องตรวจที่ลำไส้ใหญ่ตลอดความยาวโดยตรงของผู้ป่วย เพื่อให้เห็นภาพภายในทั้งหมดของบริเวณลำไส้ใหญ่และทวารหนักทั้งหมด ซึ่งสามารถที่จะตัดเอาติ่่งเนื้อที่เสี่ยงกลายเป็นมะเร็งออกไปได้นั่นเอง ทำให้ลดโอกาสที่ติ่งเนื้อจะพัฒนากลายเป็นมะเร็ง

ตรวจมะเร็งแบบเจาะลึกระดับยีน ด้วย Precision Cancer Medicine

โดยจะเป็นการตรวจแบบเจาะลึกถึงระดับพันธุกรรมผ่านการเจาะเลือดหรือตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อนำไปเพาะและวิเคราะห์ต่อในห้องปฏิบัติการ นำมาเปรียบเทียบกับผลฐานข้อมูลกลาง และสามารถที่จะบอกการเกิดโรคที่เฉพาะของแต่ละบุคคล เพื่อเลือกวิธีการการรักษาและใช้ยาที่เหมาะสม

โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หนึ่งในการวินิจฉัยมะเร็งลำไส้

ต้องกล่าวก่อนว่าการขาดธาตุเหล็กนั้นเป็นสาเหตุหลัก ๆ ของภาวะการเกิดโลหิตจางและการจะเจอโรคโลหิตจางก็มีหลากหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีอย่างการตรวจหาภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารเรื้อรัง โดยการตรวจหาเลือดในอุจจาระ และส่องกล้องทางเดินอาหารนอกจากจะเป็นการวินิจฉัยโรคนี้แล้ว ยังเป็นอีกวิธีที่ค้นหาความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

ตรวจด้วยโปรแแกรม “ตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง”

ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง Basic หรือการตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง Advance เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ได้อย่างดี โดยจะเป็นการตรวจหาสาเหตุของโรคมะเร็งในแต่ละส่วน ที่แยกระหว่างผู้ชายและผู้หญิงได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มของโรค ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็นก็ตาม

หากใครที่มีความสงสัยว่าตัวเองหรือคนในครอบครัวมีอาการเสี่ยง หรืออาจมีความเสี่ยงในโรคมะเร็งลำไส้ สามารถมาเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ที่ ศูนย์มะเร็งชีวีสุข อาคาร 1 ชั้น 3 โรงพยาบาลพญาไท 1 เราพร้อมที่จะให้คำปรึกษาและรักษาเกี่ยวกับโรคมะเร็ง โดยเหล่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านต่าง ๆ โดยทางแพทย์จะทำการวินิจฉัย ประเมินการรักษาและติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ของการรักษา และดูแลสุขภาพของคนไข้อย่างดีที่สุด

มะเร็งลำไส้ กับอาการที่ส่งสัญญาณเตือนว่าควรพบแพทย์