ด้วยความยาวของทั้งลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่โดยรวม ยาวรวมกันกว่า 9 เมตร ซึ่งเป็นอวัยวะในร่างกายที่ยาวมากๆ สามารถเกิดความผิดปกติได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง และอาการอักเสบที่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้น อาการอักเสบจึงสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายจุดของลำไส้ จุดที่มีการอักเสบที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือบริเวณไส้ติ่งที่มีความยาวตั้งแต่ 2-20 เซนติเมตร ตรงด้านขวาล่างของท้อง
แล้วอะไรล่ะ..ที่เป็นต้นเหตุทำให้ไส้ติ่งขนาดเล็กๆ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับปลายนิ้วก้อยเกิดอาการอักเสบขึ้นมาได้
Q: เราสามารถแยกอาการปวดท้องไส้ติ่งอักเสบ กับปวดท้องอย่างอื่นได้หรือไม่ โดยเฉพาะในผู้หญิง?
A: ไส้ติ่ง ปีกมดลูกข้างขวา รังไข่ข้างขวา อวัยวะเหล่านี้ล้วนอยู่ใกล้กัน เมื่อผู้หญิงมีอาการปวดท้อง มักจะแยกไม่ออกว่าปวดอะไร ดังนั้น ทีมศัลยแพทย์จะส่งสูตินรีแพทย์ก่อนการผ่าตัด เพื่อความแน่ชัด เนื่องจากอาจมีการตรวจพบ ซีสต์รังไข่แตก ท้องนอกมดลูก ปีกมดลูกอักเสบ จากประสบการณ์เราพบว่าครั้งแรกที่มีอาการปวด จะไม่ได้ปวดตรงบริเวณไส้ติ่ง บางรายอาจรู้สึกคล้ายปวดโรคกระเพาะอาหาร อาจได้รับยาแล้วกลับไปพักที่บ้าน แต่รับประทานไปแล้วก็ยังไม่หายปวด ดังนั้น อาการปวดที่เกี่ยวโยงกับโรคที่ต้องได้รับการผ่าตัด ให้สังเกตอาการปวดที่ใช้ระยะเวลายาวนาน แต่ไม่หาย 5-6 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ในทางกลับกัน ก็ยิ่งทำให้การอักเสบกระจ่ายตัว เกิดอาการปวดย้ายจุด อาจจะจากสะดือย้ายลงไปปวดด้านขวาล่าง เป็นต้น
Q: จริงหรือไม่ที่เมล็ดฝรั่งทำให้ไส้ติ่งอักเสบได้?
A: ความเชื่อนี้มีมานาน โดยเข้าใจว่าการรับประทานฝรั่งแล้วเมล็ดหล่นลงไป แต่ในทางการแพทย์เราไม่เคยพบว่ามีเมล็ดฝรั่งอยู่ในไส้ติ่งแต่อย่างใด
Q: สาเหตุที่แท้จริงของไส้ติ่งอักเสบคืออะไร?
A: อุจจาระแข็งแล้วเข้าไปอุดในท่อ ในบางรายพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุด เช่น บางรายมีการอักเสบในบริเวณอื่น หรือต่อมน้ำเหลืองในบริเวณนั้นโตจนเข้าไปอุด บริเวณไส้ติ่งจะมีผนังเยื่อเมือก เมื่อรูเกิดการอุดตันขึ้นมา เยื่อเมือกที่ร่างกายสร้างก็ไม่สามารถออกมาได้จนเกิดการสะสมจึงดันตัวขึ้น ส่งผลให้ไส้ติ่งโปร่งออก โดยปกติแล้วไส้ติ่งจะมีเลือดมาเลี้ยง เมื่อไส้ติ่งโปร่งออกจนไม่สามารถให้เลือดเข้ามาเลี้ยงได้ สิ่งที่ตามคือการเน่า
Q: ไส้ติ่งอักเสบ เกิดขึ้นได้อย่างไร?
A: ปวดท้องมากขึ้นและมีอาการหนักขึ้นภายใน 6-24 ชั่วโมง อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่า ไส้ติ่งเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่อยู่ระหว่างลำไส้เล็กส่วนปลายและลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ตำแหน่งของไส้ติ่งจะอยู่บริเวณท้องด้านล่างขวา เป็นอวัยวะที่ไม่ได้มีหน้าที่ใดๆ แต่หากไม่ดูแลรักษาให้ดี และเกิดการอักเสบขึ้นมา ไส้ติ่งที่อักเสบนี้อาจแตกได้ เชื้อโรคที่อยู่ในไส้ติ่งสามารถแพร่กระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว และอาจตรงเข้าสู่กระแสเลือดจนนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุดได้ อาการไส้ติ่งอักเสบจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จะรู้สึกปวดท้องมากขึ้น และมีอาการหนักขึ้นภายใน 6-24 ชั่วโมง
Q: ปวดแบบไหนที่เรียกว่า ไส้ติ่งอักเสบ?
A: ตำแหน่งของไส้ติ่งอยู่บริเวณท้องด้านล่างขวา หากเมื่อไหร่ที่มีอาการปวดท้องบริเวณนี้ ก็ต้องหมั่นคอยสังเกตตัวเองอย่างใกล้ชิด แต่การปวดท้องบริเวณนี้ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดจากไส้ติ่งอักเสบทุกครั้งไป มาดูสิว่าอาการปวดท้องแบบไหนถึงเรียกว่าไส้ติ่งอักเสบ
- มีอาการปวดท้องแบบเฉียบพลัน คือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จู่ๆ ก็ปวดท้องบริเวณด้านล่างขวาขึ้นมา และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ปวดขนาดที่ว่าหลับๆ อยู่ยังสามารถทำให้สะดุ้งตื่นนอนได้เดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว
- หลายๆ รายจะมีอาการปวดท้องรอบๆ สะดือ แล้วย้ายไปปวดที่ท้องล่างขวามากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ไส้ติ่งจะเคลื่อนไปอยู่บริเวณหน้าท้องส่วนบน อาจทำให้มีอาการปวดท้องบริเวณนี้ขึ้นมาได้
- อาการปวดท้องด้านล่างขวานี้ถ้ายิ่งเดินก็ยิ่งทำให้ปวดท้องมากขึ้นจนแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินต่อไหว หรือจะยิ่งปวดมากขึ้นถ้าไอ จาม แม้แต่นั่งอยู่บนรถแล้วเจอเส้นทางขรุขระก็ทำให้ปวดสะเทือนไปถึงบริเวณท้องแบบทรมานมากได้
- บางรายจะมีอาการท้องเสียติดต่อกัน 2-3 วัน ร่วมกับมีอาการอาเจียนติดต่อกันนานกว่า 12 ชั่วโมง หรือบางคนอาจจะท้องผูก มีอาการท้องอืดเฟ้อ มีแก๊สในกระเพาะอาหาร ติดต่อกันมากกว่า 2 วัน ร่วมกับอาการปวดท้องด้านล่างขวา
- ถ้าใช้มือกดบริเวณหน้าท้องเพียงแค่เล็กน้อย ก็จะรู้สึกปวดจี๊ดทรมานมาก
Q: คนต้องปวดไส้ติ่งที่เดียวกันหรือไม่?
A: ไม่จำเป็น…อาการปวดมีหลายแบบ ในบางรายไส้ติ่งโผล่ไปด้านหน้าท้อง และมีการอักเสบด้านหน้า ลักษณะนี้จะมีอาการปวดรุนแรงอย่างชัดเจน แตะไม่ได้ เดินงอ อาเจียน ถือว่าชัดเจนดีและง่ายต่อการวินิจฉัย แต่ในบางรายมีการอักเสบแล้วตัวไส้ติ่งซุกกลับเข้าด้านใน ส่งผลให้มีอาการปวดน้อย แต่อืดท้อง รู้สึกไม่สบายตัว บอกอาการไม่ถูก เพราะกดไม่เจ็บมาก โดยเฉพาะในรายที่อ้วนมากๆ มีไขมันเยอะ หน้าท้องหน้า น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ยิ่งทำให้การวินิจฉัยยากลำบาก เพราะกดไม่ถึงตัวไส้ติ่ง รู้หรือไม่ว่าความน่ากลัวของกลุ่มอาการที่แสดงไม่ชัดคืออาจทำให้การวินิจฉัยอาจคลาดเคลื่อนได้
ข้อมูลจากวิจัยของ Duke University ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ไส้ติ่งมีหน้าที่สร้าง หรือปกป้องเชื้อจุลินทรีย์ในช่องท้อง แต่อวัยวะไส้ติ่งส่วนเล็กๆ นี้ หากเกิดการอักเสบแล้วไม่รีบจัดการ อาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน ทั้งนี้ไส้สิ่งอักเสบเป็นอาการปวดท้องเฉียบพลัน พบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยไม่เกิน 30 ปี
Q: การรักษาป้องกันทำได้อย่างไรบ้าง
A: วิธีการผ่าตัดจะลงแผลบริเวณท้องน้อยด้านขวาลงไปหาไส้ติ่งแล้วตัดทิ้ง หลายท่านอาจสังเกตว่า ทำไมไส้ติ่งถึงต้องผ่าตรงกลาง ตรงจุดนี้ ในบางรายที่ไส้ติ่งแตก แล้วมีหนองกระจายมากๆ ถ้าเราเปิดแผลมุมเดียวจะไม่สามารถกำจัดหนองได้หมด ปัจจุบัน วิวัฒนาการทางการแพทย์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจัดการกับไส้ติ่งมีอีกหลายวิธี อย่างการผ่าตัดผ่านกล้อง โดยใช้กล้องเข้าไปสำรวจช่องท้องทั้งหมด ซึ่งการผ่าไส้ติ่งแบบเปิดแผลธรรมดา ทำให้แพทย์เห็นในมุมแคบ แต่การใช้กล้องสามารถได้ประโยชน์สองต่อ ในการสำรวจความผิดปกติของช่องท้องได้ ทั้งปีกมดลูก รังไข่ สามารถดูได้ทั้งหมด ดังนั้น เมื่อมีอาการปวดดังที่กล่าวมาข้างต้น อย่ารอให้เกิดการไส้ติ่งแตก แต่ถ้าไส้ติ่งแตกแล้วจำเป็นต้องผ่าตัดทันที และรักษาไปตามขั้นตอนต่อไป