“Life is movement เพราะชีวิตคือการเคลื่อนไหว จึงลงมือรักษาคนไข้ด้วยความพิถีพิถันและรอบคอบ เพื่อให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและกลับมาเคลื่อนไหวได้ในเวลาที่รวดเร็วอีกครั้ง”

ไม่หยุดเรียนรู้ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

นพ.กฤษกร ศรีสม ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ได้ศึกษาต่อยอดความรู้เป็นแพทย์เฉพาะทางข้อสะโพก และตามด้วยศัลยศาสตร์อุบัติเหตุทางกระดูกและข้อในเวลาต่อมา ด้วยความรู้ที่มากมายและการสั่งสมประสบการณ์ในการดูแลรักษาคนไข้มากว่า 11 ปี จึงถือเป็นหนึ่งในแพทย์ผู้ชำนาญการที่คนไข้ไว้ใจและยอมรับ

คุณหมอได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะมุ่งหวังให้คนไข้ที่ได้รับการรักษาสามารถลุกเดินได้เร็วที่สุด โดยเฉลี่ยในแต่ละปี คุณหมอได้ทำการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยกว่า 150 ราย และยังเน้นการรักษาแบบโฟกัสผู้ป่วยแต่ละรายตามความเหมาะสม ทั้งในการเลือกรูปแบบการรักษา โดยใช้แนวทางที่เห็นชอบร่วมกันระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย

การฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

โรคกระดูกไม่ใช่โรคที่รักษาแล้วหายทันที หลังผ่าตัดแล้วผู้ป่วยจะยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูเป็นระยะเวลาหนึ่ง บางรายอาจใช้เวลาเป็นปี เพราะฉะนั้นระหว่างที่กระดูกของคนไข้ยังไม่ติดดีหรือเชื่อมกันยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย คนไข้ต้องรู้วิธีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม หมอก็ต้องทราบถึงการใช้ชีวิตประจำวันของคนไข้ เพื่อปรับรูปแบบการรักษาให้คนไข้ไม่กลับไปเป็นซ้ำอีก บางคนต้องอยู่กับไม้ค้ำยัน ทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนไม่ถูกใช้งานก็อาจเกิดการเสียศูนย์ จึงจำเป็นต้องฝึกกล้ามเนื้อและทำกายภาพร่วมด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องใช้เวลาในการอธิบายพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างคนไข้และหมอ เพื่อให้ผลการรักษาออกมาเต็มร้อยได้ในที่สุด

เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี…จึงรักษาอย่างสุดความสามารถ

หลายคนมองงานของหมอกระดูกเหมือนคนทำงานช่าง ทั้งเจาะ ผ่า ทั้งเชื่อมข้อ แต่ความจริงแล้วหมอกระดูกมีความละเอียดอ่อนมากกว่านั้น เพราะปัญหากระดูกเป็นปัญหาที่หลายคนกังวล โดยนอกจากจะมีความเจ็บปวดในการใช้ชีวิตแล้ว ยังส่งผลต่อการเคลื่อนไหวที่ยากลำบาก ในรายที่อาการรุนแรง คือ เคลื่อนไหวหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็จะบั่นทอนต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วย กระทั่งหลายคนถอดใจไม่ยอมทำตามคำแนะนำของแพทย์ จึงเป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะต้องช่วยฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยไปพร้อมๆ กัน

“เราไม่ได้แค่ผ่าตัดหรือเชื่อมกระดูก แต่ต้องเข้าใจความรู้สึกของคนไข้ เราถูกสอนมาว่าชีวิตของมนุษย์สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวเสมอ ทั้งเคลื่อนไหวเพื่อทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างสรรค์งาน และอื่นๆ อีกมาก การรักษาโรคกระดูกจึงเป็นเรื่องที่อ่อนไหวและยิ่งใหญ่สำหรับหมอ เพราะต้องการให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมหรือมีอิสระให้เร็วที่สุด หมอจึงต้องรักษาอย่างเต็มที่ ตั้งแต่มองหาวิธีการรักษาไปจนถึงการใช้เทคโนโลยี และนำกระบวนการช่วยเหลือคนไข้ทุกอย่างมาใช้ โดยจะให้ข้อมูลแก่คนไข้เพื่อเลือกและตัดสินใจร่วมกัน มีความคุ้มค่าในการรักษา โดยจะทั้งมีหนังสือ มีรูป มีผัง มีโมเดล และวิดีโอให้คนไข้ได้ดู เพื่อทำความเข้าใจในแต่ละขั้นตอนการรักษา แลรู้ถึงส่วนที่ต้องดูแลตัวเองไปพร้อมๆ กัน”

“ปัจจุบัน เราพยายามทำให้คนไข้แข็งแรงตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัด ด้วยเทคนิคการผ่าตัดที่ลดการเสียเลือด ลดการทำลายเนื้อเยื่อรอบๆ และกระดูกที่เป็นสาเหตุของความเจ็บป่วย เพื่อช่วยให้คนไข้ขยับลุกเดินได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด โดยอยู่ในการดูแลของแพทย์ ส่วนในระยะยาวคือการฟื้นฟูสภาพร่างกายโดยรวมของคนไข้ให้สามารถกลับมาใช้งานข้อกระดูกต่างๆ ได้ดีดังเดิม”

ส่งต่อความรู้…เพื่อการดูแลอย่างยั่งยืน

การตอบคำถามคนไข้คือความสุข หมอชอบให้มีการซักถามเพื่อจะได้เข้าใจทิศทางการรักษารู้จักโรคของตนเอง มีข้อมูล มีความหวัง กระทั่งรู้วิธีดูแลตัวเองให้หายดี แม้ว่าจะไม่ต้องกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก แต่ก็ยังสามารถนำความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องจากการได้แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันไปดูแลสุขภาพของตนเองในระยะยาว และยังบอกต่อผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง จึงนับว่าเป็นเรื่องราวที่ดีที่ทำให้หมอมีความสุขที่ได้พูดคุยกับคนไข้