เมื่อพูดถึง “การเผาผลาญ” เรามักนึกถึงคำยอดฮิตในปัจจุบัน อย่างคำว่า “BURN” ซึ่งในทางการแพทย์แล้วจะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกัน เนื่องจากการทำงานของทุกอวัยวะในแต่ละขั้นตอนมีการเผาผลาญเกิดขึ้นทั้งนั้น ทั้งการหายใจ หัวใจสูบฉีด การใช้ความคิด รวมถึงกิจกรรมที่ใช้พลังงาน เช่น การออกกำลังกาย
ทำไม? อ้วนง่าย…ผอมยาก ไม่เหมือนตอนวัยรุ่น นี่คือคำตอบ!!
เพราะร่างกายที่มีการเผาผลาญที่ดี…การควบคุมน้ำหนักก็จะดี ไขมันพอกพูนตามส่วนต่าง ๆ ก็จะน้อย ซึ่งขบวนการเผาผลาญที่ดี ต้องสนับสนุนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดสารอนุมูลอิสระที่เป็นโทษในปริมาณมาก โดยต้องประกอบด้วย…ระดับฮอร์โมนที่สมดุลและมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอ แต่ที่น่ากังวล คือ ทั้งฮอร์โมนและสารต้านอนุมูลอิสระล้วนลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น และประสิทธิภาพการเผาผลาญจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปในแต่ละปี!!
ดูดีได้…ไม่ว่าวัยไหน เพียงแค่รู้จักปรับรูปแบบการใช้ชีวิต
- การพักผ่อนให้เพียงพอโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เข้านอนตั้งแต่เวลา 22.00 น. การหลับสนิทในช่วงนี้ จะทำให้ Growth hormone หลั่งดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย มีมวลกระดูกและกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ และเกิดความสมดุลของฮอร์โมน
- ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ประกอบด้วย
- การออกกำลังกายแบบ Cardio เพื่อให้การทำงานของหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง เพิ่มการเผาผลาญ อาจเริ่มจากการเดิน ซึ่งช่วยการเผาผลาญไขมันได้ดี แม้แต่การเดินในชีวิตประจำวันเร็วขึ้นและก้าวยาว ๆ ก็ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ
- การออกกำลังแบบสร้างมวลกล้ามเนื้อ มวลกล้ามเนื้อมีความสำคัญต่อระบบเผาผลาญมาก การเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้มากพอด้วยการออกกำลังกายแบบ weight training ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพื้นฐานได้ดียิ่งขึ้น
- การออกกำลังแบบผ่อนคลายและเสริมความยืดหยุ่น เช่น โยคะ พิลาทิส
- การดื่มน้ำสะอาดที่เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลาย และครบทั้ง 5 หมู่
- การรับประทานอาหารเสริม เนื่องจากในปัจจัน…เราใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านมากกว่า 80% จึงยากที่จะเตรียมหรือปรุงอาหารที่มีสารอาหารเพียงพอกับปัญหาของร่างกาย สารอาหารที่พบว่ามีบทบาทต่อการเผาผลาญในแง่มุมต่าง ๆ ได้แก่
- Chromium เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มการทำงานของ insulin ซึ่งจัดเป็นฮอร์โมนที่สำคัญในขบวนการเผาผลาญและชะลอวัย
- Garcinia หรือ สารสกัดจากส้มแขก ให้กรด Hydroxycitric acid ช่วยควบคุมความอยากอาหาร, เพิ่มการทำงานของ carnitine acyl transferase ที่ช่วยเร่งการสลายไขมัน และหากทานร่วมกับ Chromium กรด Hydroxycitric จะช่วยเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานไกลโคเจนมากขึ้น กลายเป็นพลังงานสำรองซึ่งจะเก็บอยู่ตามตับและกล้ามเนื้อ แทนที่จะเปลี่ยนเป็นไขมันส่วนเกินตามสะโพก แขน หรือขา
- Capsaicin หรือ สารสกัดจากพริก ช่วยลดโอกาสการเกาะของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
- วิตามิน B5 มีบทบาทในการควบคุมคอเลสเตอรอล และระดับความดันโลหิต พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ซึ่งมีบทบาทในการเผาผลาญและควบคุมน้ำหนัก
เราจะเห็นได้ว่าระบบเผาผลาญที่ดี นำมาซึ่งการทำงานที่มีประสิทธิภาพของทุกอวัยวะ ช่วยในเรื่องการควบคุมระดับไขมัน น้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ควบคุมน้ำหนักและรูปร่างได้ดี โดยไม่เกิดสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นต้นเหตุของความเสื่อมและแก่ แต่หากเราลดน้ำหนักแบบผิดวิธี!! นอกจากจะไม่สำเร็จยืนยาวแล้ว อาจก่อให้เกิดความเสื่อม เพลีย แก่ และโทรมอีกด้วย ดังนั้น การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต..จะช่วยให้เรามี well being คือ มีสุขภาพแข็งแรง รูปร่างดีสมส่วนโดยไม่ดูทรุดโทรม และมีความผาสุขในการใช้ชีวิต
พญ. ธิศรา วีรสมัย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย
ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท 1