อยากมีบุตรแต่ไม่มีสเปิร์ม มีวิธีไหนช่วยได้บ้างนะ

อยากมีบุตรแต่ไม่มีสเปิร์ม มีวิธีไหนช่วยได้บ้างนะ

ภาวะมีบุตรยาก ที่เกิดจากความผิดปกติทางฝ่ายชาย ไม่ว่าจะเป็น สเปิร์มมีเชื้ออ่อน สเปิร์มไม่แข็งแรง สเปิร์มเคลื่อนที่ช้า ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการเพิ่มคุณภาพสเปิร์ม หรือใช้เทคนิคเด็กหลอดแก้ว แล้วสำหรับผู้ชายที่ไม่มีสเปิร์มเลยล่ะ! หรือเรียกว่าสเปิร์มเป็นศูนย์…จะแก้ไขปัญหามีบุตรยากนี้ได้อย่างไร นี่คือ 2 แนวทางการรักษาที่ช่วยให้ฝ่ายชายกลับมาสเปิร์มได้อีกครั้ง

รู้ได้ยังไงนะ…ว่าเรามีสเปิร์มหรือไม่?

หลังจากการเก็บน้ำอสุจิจากฝ่ายชายแล้ว จะมีการนำน้ำอสุจิมาตรวจหาคุณภาพของสเปิร์มตามขั้นตอน หากไม่พบเห็นตัวสเปิร์มเลย เราจะนำสเปิร์มเข้าสู่กระบวนการที่เรียกว่า “การปั่นสเปิร์ม” ในห้องปฏิบัติการ ปั่นด้วยความแรงและความเร็วสูงเพื่อให้เซลล์ของสเปิร์มตกตะกอนลงสู่ก้นหลอด และนำเซลล์ที่ก้นหลอดมาตรวจว่ามีตัวสเปิร์มหรือไม่ เมื่อไม่พบว่ามีสเปิร์ม แพทย์จะนัดให้คนไข้มาเก็บสเปิร์มและปั่นสเปิร์มใหม่ ภายใน 3-5 วัน เพื่อเป็นการยืนยันผลอีกครั้ง

สเปิร์มเป็นศูนย์ ไม่พบตัวสเปิร์ม…เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

สาเหตุสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ดังต่อไปนี้

  1. กลุ่มที่เกิดจากการอุดตันของท่อทางเดินของสเปิร์ม ช่องทางที่ลำเลียงตัวสเปิร์มออกจากลูกอัณฑะ ซึ่งการอุดตันที่พบได้บ่อยคือ การทำหมันชาย ในกลุ่มที่ทำหมันชายสามารถนำสเปิร์มออกมาใช้ได้ นอกจากการแก้หมันแล้วเรายังทำได้โดยนำเข็มเจาะที่ท่อพักสเปิร์มและดูดสเปิร์มออกมา โดยสเปิร์มที่ดูดเจาะออกมามักจะมีคุณภาพดีใกล้เคียงได้กับสเปิร์มที่หลั่งออกมาเองโดยธรรมชาติ นอกจากนั้นแล้วยังพบการอุดตันในกรณีอื่น เช่น จากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน หนองในเทียม โดยอาจเกิดการอุดตันในระดับของท่อลำเลียงขนาดเล็ก ซึ่งจะไม่สามารถเจาะดูดสเปิร์มออกมาได้เลย ต้องมีการผ่าตัดเปิดลูกอัณฑะเพื่อเอาชิ้นเนื้อของลูกอัณฑะมาตรวจหาสเปิร์มต่อไป
  2. กลุ่มที่ไม่เกิดจากการอุดตัน แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มย่อย
    • จากฮอร์โมนต่อมใต้สมอง เนื่องจากฮอร์โมนต่อมใต้สมองมีหน้าที่สั่งการ มากระตุ้นให้อัณฑะทำงานสร้างสเปิร์ม ถ้าฮอร์โมนต่อมใต้สมองไม่ทำงาน ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนได้ หรือผลิตได้น้อยเกินไป ก็ไม่สามารถไปกระตุ้นให้อัณฑะสร้างสเปิร์มได้นั่นเอง ในกลุ่มนี้สามารถตรวจวินิจฉัยได้โดยการเจาะเลือดตรวจฮอร์โมน ถ้าพบว่าฮอร์โมนต่ำ สามารถฉีดยาจากภายนอกไปกระตุ้นที่ลูกอัณฑะเพื่อเก็บสเปริม์ แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือการฉีดยาจะใช้เวลานานเพราะรอบในการสร้างสเปิร์ม 1 ตัว เพื่อพัฒนาออกมาใช้งานจากจุดเริ่มต้นใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ทำให้ต้องฉีดการกระตุ้นทุกวันเป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป
    • กลุ่มที่มีปัญหาที่ลูกอัณฑะที่ทำให้การสร้างอสุจิหยุดชะงัก หรือไม่มีการสร้างเลย ซึ่งเกิดจากสาเหตุดังนี้
      • การติดเชื้อ เช่น จากการติดเชื้อ หนองใน หนองในเทียม และ คางทูมในเด็กทำให้ลูกอัณฑะอักเสบจนไม่สามารถสร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้
      • กลุ่มที่เกิดจากพันธุกรรม เช่นโครโมโซม Y ผิดปกติ หรือมีการหายไปของตำแหน่งที่กำหนดการสร้างสเปิร์มจึงทำให้การสร้างสเปิร์มลดลง หากกลุ่มนี้ต้องการมีบุตรและใช้สเปิร์มที่เกิดจากโครโมโซม Y ผิดปกติ จะมีโอกาสถ่ายทอดไปยังลูก ทำให้ลูกชายที่เกิดมาจะพบปัญหาในการสร้างสเปิร์มเช่นเดียวกัน

การตรวจวินิจฉัยสามารถทำได้อย่างไรบ้าง

  1. การเจาะเลือดตรวจฮอร์โมน ในกรณีพบว่าฮอร์โมน FSH(Follicular-stimulating hormone) สูง หมายถึง มีความผิดปกติที่ลูกอัณฑะ เพราะฮอร์โมนสูงหมายถึงลูกอัณฑะไม่สามารถสร้างสเปิร์มได้นั่นเอง ส่วนคนไข้ที่พบว่ามีฮอร์โมนต่ำ หมายถึงสมองมีความผิดปกติทำให้การสร้างสเปิร์มน้อยลง และในกลุ่มฮอร์โมนปกติ หมายถึง เกิดจากการอุดตัน เป็นต้น
  2. การตรวจร่างกาย เช่น มีท่อพักอสุจิที่ บวม หรือไม่ ซึ่งอาจเกิดจากการอุดตันได้ และตรวจดูขนาดของลูกอัณฑะ เป็นต้น
  3. การตรวจชิ้นเนิ้อจากลูกอัณฑะ เพื่อตรวจว่าเกิดพยาธิสภาพอะไรในเนื้อเยื่อลูกอัณฑะจึงทำให้ตรวจไม่พบตัวสเปิร์มในน้ำอสุจิ

มีวิธีใดบ้างนะที่ช่วยให้ฝ่ายชายในกลุ่มนี้…มีสเปริม์และนำมาใช้มีบุตรได้

  • การใช้เข็มเจาะไปที่ท่อพักอสุจิ (Epididymis) หรือเรียกว่า PESA (Percutaneous Epididymal Sperm Aspiration) เพื่อดูดเจาะสเปิร์มออกมาใช้ โดยวิธีนี้จะไม่มีแผลแต่อย่างใด ใช้กับกลุ่มคนที่มีปัญหาในเรื่องการอุดตันของท่อทางเดินลำเลียงตัวสเปิร์มออกจากลูกอัณฑะ
  • การผ่าตัดเอาสเปิร์มออกจากลูกอัณฑะ TESE (Testicula Sperm Extraction) โดยเปิดแผลที่ลูกอัณฑะประมาณ 1ซม. โดยในเนื้ออัณฑะมีท่อที่เรียกว่า seminiferous tubule เป็นท่อที่สร้างตัวสเปิร์ม โดยจะนำท่อนี้ออกมาเพื่อค้นหาตัวสเปิร์มในห้องปฏิบัติการต่อไป

 

 

นพ. ธีรยุทธ์ จงวุฒิเวศย์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์
ศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยาก โรงพยาบาลพญาไท 2


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...