หลายคนอาจจะอายและไม่กล้าที่จะไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาริดสีดวง ทำให้ต้องทนเก็บความสงสัยและความกังวลเอาไว้ เพราะไม่แน่ใจว่าอาการที่พบเจออยู่นั้น ใช่อาการของริดสีดวงหรือเปล่า วันนี้เรามีเช็กลิสต์อาการของริดสีดวงมาฝาก ให้ทุกคนเฝ้าสังเกตอาการเพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี
“ภาวะริดสีดวง” ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
“ริดสีดวง” เกิดจากภาวะที่หลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักเกิดการปูดพองเป็นหัว หรือที่เรียกกันว่า “หัวริดสีดวง” แล้วมีการปริแตกของผนังหลอดเลือดในขณะที่เบ่งถ่ายอุจจาระ จึงทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย โดยอาการดังกล่าวมักเกิดขึ้นเวลาที่ท้องผูกหรือท้องเดิน ซึ่งหัวริดสีดวงอาจมีเพียงหัวเดียวหรือมีหลายหัวก็ได้ แต่โดยปกติแล้วจะไม่มีอาการรุนแรงหรืออันตราย ส่วนมากจะเป็นๆ หายๆ สร้างความรำคาญและวิตกกังวลให้กับผู้มีอาการอยู่บ่อยครั้ง โดยริดสีดวงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือถ้าเกิดจากหลอดเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวหนังตรงปากทวารหนักจะเรียกว่า “ริดสีดวงภายนอก” (External Hemorrhoids) ซึ่งอาจมองเห็นจากภายนอกได้ แต่ถ้าเกิดจากหลอดเลือดที่อยู่ลึกเข้าด้านในจะเรียกว่า “ริดสีดวงภายใน” (Internal hemorrhoids) ซึ่งจะสามารถตรวจพบได้เมื่อใช้กล้องส่องตรวจลำไส้โดยตรง
อาการแบบไหน…ที่เรียกว่า “ผิดปกติ”
อาการของริดสีดวงภายนอก จะมีติ่งเนื้อสีชมพูคล้ำออกมาจากปากทวารหนักเมื่อมีอาการท้องผูกหรือท้องเสีย ทำให้รู้สึกปวด บวม เจ็บ และระคายเคือง ในกรณีที่ไม่เกิดลิ่มเลือดอุดตัน อาจไม่เกิดปัญหามากนัก แต่หากมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดที่โป่งพอง จะทำให้มีอาการปวด บวม เจ็บมากขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะหายเจ็บได้ภายใน 2-3 วัน แต่กว่าจะหายบวมต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เมื่อหายดีแล้วอาจจะยังมีผิวหนังเป็นติ่งเหลืออยู่ หากหัวริดสีดวงมีขนาดใหญ่ก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองและคันบริเวณรอบปากทวารหนักได้
ส่วนอาการของโรคริดสีดวงภายใน ส่วนมากจะมีอาการเลือดออกทางทวารหนัก แต่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด ซึ่งจะเกิดขึ้นในระหว่างถ่ายหรือหลังจากถ่ายอุจจาระเสร็จ และเลือดที่ออกมานั้นจะมีลักษณะเป็นเลือดสีแดงสด ออกปนมากับอุจจาระ มีเลือดไหลหยดลงในโถส้วม หรือจะสังเกตได้จากเลือดที่ติดเปื้อนกระดาษชำระมา โดยอาการดังกล่าวจะออกมาในลักษณะติดอยู่บนพื้นผิวของก้อนอุจจาระเท่านั้น ส่วนตัวก้อนอุจจาระยังเป็นสีของอุจจาระตามปกติ และไม่มีมูกปน ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นๆ หายๆ แต่หากมีเลือดออกมามากหรือเกิดอาการเรื้อรัง อาจทำให้เกิดอาการซีดตามมาได้
อย่าปล่อยผ่าน…จนกลายเป็นโรคร้ายแรง
สำหรับคนที่เป็นมากหลอดเลือดจะบวมมาก ทำให้หัวริดสีดวงโผล่ออกมานอกปากทวารหนัก หรือเห็นเป็นก้อนเนื้อนิ่มๆ ปลิ้นโผล่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด สามารถคลำแล้วพบได้ทันที ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณทวารหนักได้
หากมีอาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก มีเลือดออก พบก้อนเนื้อหรือความผิดปกติที่ทวารหนัก แล้วสงสัยว่าเป็นริดสีดวง แต่อายไม่กล้ารักษา…สลัดความอายแล้วไปพบแพทย์จะดีกว่า เพราะบางทีการถ่ายเป็นเลือดอาจไม่ใช่ริดสีดวงก็ได้นะ