
โรคริดสีดวงทวารดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ทราบหรือไม่ว่ามีคนไทยถึง 70% ป่วยเป็นโรคนี้ และผู้หญิงมีอัตราการป่วยมากกว่าผู้ชายอีกด้วย วันนี้ พญ.นรสรา วิทยาพิพัฒน์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้อง ศูนย์ศัลยกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง (ASIT) โรงพยาบาลพญาไท 3 จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับโรคริดสีดวงทวาร ที่คนมักเข้าใจผิดกัน
ทำไม ผู้หญิงเป็นริดสีดวงทวารมากกว่าผู้ชาย
ริดสีดวงทวารพบในผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่า สาเหตุเพราะว่าการตั้งครรภ์เป็นความเสี่ยงต่อริดสีดวงค่อนข้างเยอะ ปัจจัยเสี่ยงมาจากการเพิ่มความดันในช่องท้อง ซึ่งการตั้งครรภ์จะทำให้เด็กอยู่ในช่องท้อง ไปกดตัวการไหลเวียนของเส้นเลือดของทวารหนัก ทำให้การไหลเวียนของเส้นเลือดไม่ดี เส้นเลือดตกลงมาด้านล่าง ทำให้หญิงตั้งครรภ์แทบทุกคนเป็นโรคริดสีดวงทวาร
Anal sex เพิ่มความเสี่ยงริดสีดวง
โดยทั่วไป สาเหตุของโรคริดสีดวงทวารเกิดจากสุขอนามัยที่ผิดปกติหรือเปลี่ยนแปลงไป วิถีชีวิตที่เร่งรีบของคนเมือง ทำให้คนเรากินผักผลไม้น้อยลง และกินเนื้อสัตว์หรือแป้งมากเกินไป ทำให้เกิดอาการท้องผูก เกิดโรคลำไส้แปรปรวนเยอะขึ้น ทำให้เราต้องเบ่งตอนขับถ่ายมากขึ้น เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวาร ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก จะทำให้เกิดกลไกของการเบ่งมากขึ้น จึงเพิ่มความเสี่ยงเช่นเดียวกับการเบ่งอุจจาระ
มะเร็งลำไส้ใหญ่กับมะเร็งทวารหนัก เกี่ยวกับริดสีดวงทวารหรือเปล่า
อาการหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์คือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ดังนั้นใครที่มีความผิดปกตินี้ก็ไม่ควรชะล่าใจ ทางการแพทย์กังวลเรื่องมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือมะเร็งทวารหนักมากกว่า ซึ่งเราต้องแยกออกจากกัน บางคนมีเลือดออกแล้วคิดว่าเป็นริดสีดวงจึงปล่อยไว้ ปรากฏว่าเมื่อมาตรวจกับแพทย์แล้วพบว่าเป็นมะเร็งทวารหนักก็มี
ดังนั้น ริดสีดวงไม่ได้เพิ่มปัจจัยเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง เพียงแต่มีอาการเหมือนกันคือ เลือดออกทางทวารหนัก
ท้องผูก – ท้องเสีย อาการไหนเสี่ยงกว่า
ทั้ง 2 อาการเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนักได้ง่ายขึ้นพอๆ กัน
- ท้องเสีย – การถ่ายอุจจาระมากกว่าวันละ 2 ครั้ง สามารถทำให้เกิดริดสีดวงได้ง่ายขึ้นเพราะว่าเกิดการเบ่งมากขึ้น
- ท้องผูก – การท้องผูก หรือไม่ถ่ายอุจจาระนานกว่า 2 วัน ก็ทำให้เราต้องใช้แรงเบ่งมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ปล่อยไว้ไม่รักษา อาจเป็นโรคหัวใจ
ริดสีดวงไม่ใช่โรคอันตรายมากนักและการรักษาทำได้ไม่ยาก แต่เมื่อมีอาการถ่ายเป็นเลือดแล้วควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่ถ้าปล่อยไว้ คนไข้มีเลือดออกเยอะ ก็ทำให้ซีด เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตต่ำกว่าปกติ หรือโรคอื่นๆ ตามมาได้
พญ.นรสรา วิทยาพิพัฒน์
ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้อง
ศูนย์ศัลยกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง (ASIT) โรงพยาบาลพญาไท 3
โทร 0-2467-1111 ต่อ 3100