
เกล็ดเลือดเป็นกลไลหนึ่งที่มีหน้าที่ในการห้ามเลือด โดยจะทำการเกาะบริเวณหลอดเลือดที่มีรอยฉีกขาดและหลั่งสารเคมีจนมีการรวมตัวกันของกระจุกเกล็ดเลือด ทำให้เลือดหยุดและเสริมสร้างความแข็งแรงของเยื่อบุหลอดเลือด
หากเด็กมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (ITP) จะทำให้เด็กมีภาวะเลือดออกง่าย มีจุดจ้ำเลือดตามตัว เด็กบางคนที่มีอาการเลือดออกมากจะทำให้มีเลือดออกในทางเดินอาหาร เลือดออกในสมอง ซึ่งรุนแรงและอันตรายถึงชีวิตได้ โดยในภาวะปกติปริมาณเกล็ดเลือดในคนทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 150,000-400,000 ตัวต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร
ในเด็กที่มีเกล็ดเลือดน้อยกว่า 20,000 ตัวต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร จะมีโอกาสเลือดออกมาเองโดยไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทบกระเทือน ซึ่งเป็นอันตราย หากลูกของคุณมีภาวะเช่นนี้ ควรพาลูกเข้ารับการตรวจวินิฉัยเพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกันคืออะไร
โรคเกล็ดเลือดต่ำในเด็ก (ITP) หรือโรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกัน เกิดจากภาวะในร่างกายไปกระตุ้นภูมิต้านทานจนส่งผลกระทบเป็นการทำลายเกล็ดเลือด ซึ่งปกติแล้วร่างกายจะทำการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นภายหลังจากการติดเชื้อรุนแรงหรือไม่รุนแรงก็ได้ หรือแม้แต่การได้รับวัคซีนก็เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม โดยภูมิคุ้มกันนี้มักเกิดขึ้นภายหลัง 2-4 สัปดาห์ ซึ่งอาจมีผลทำให้มีเกล็ดเลือดต่ำได้ โดยมักพบในเด็กอายุ 1-5 ปี
สังเกตอาการโรคเกล็ดเลือดต่ำ (ITP) ได้อย่างไรบ้าง
- เมื่อเด็กได้รับการกระทบกระแทก เด็กจะมีจ้ำเลือดขนาดใหญ่ หรือกระจายตามร่างกาย
- เลือกกำเดาไหลบ่อย เลือดออกตามไรฟัน
- ในเด็กที่มีเกล็ดเลือดต่ำมาก จะมีจุดจ้ำเลือดสีแดงขนาดเล็กเท่าปลายเข็มกระจายตามร่างกายทั้งที่ไม่ได้รับการกระทบกระเทือน จุดเลือดออกตามกระพุ้งแก้ม ในช่องปาก อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
การรักษาโรคเกล็ดเลือดต่ำ
- แพทย์จะซักประวัติ เช่น เด็กมีอาการเฉียบพลัน ก่อนหน้านี้มีการติดเชื้อ หรือมีการฉีดวัคซีนมาก่อน 2-4 สัปดาห์หรือไม่ ทำการตรวจความสมบูรณ์ของเลือด ถ้าผลเลือดไม่มีภาวะซีดหรือเม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ โดยมีเกล็ดเลือดต่ำเพียงอย่างเดียว แพทย์จะทำการรักษาโดยใช้ยา IVIG เป็นการจับแอนตี้บอดี้ที่ถูกสร้างขึ้นในร่างกายหรือยาสเตียรอยด์ ซึ่งการตอบสนองต่อยาของคนไข้ในแต่ละรายจะแตกต่างกันไป
- ในเด็กที่อายุมากกว่า 5 ปี มีเม็ดเลือดขาวผิดปกติ ภาวะซีดโดยไม่ทราบสาเหตุ แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติมก่อนการรักษา เช่น ตรวจเจาะไขกระดูก เป็นต้น
การดูแลเด็กที่ป่วยโรคเกล็ดเลือดต่ำไอทีพี
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดอาการฟกช้ำ กระทบกระแทก หรือเลือดออกได้ง่าย เช่น กิจกรรมโลดโผน เล่นกีฬา ในเด็กช่วงอายุหัดเดิน ควรมีการป้องกันการกระทบกระเทือน เช่น การบุนวมที่คอกกั้นเด็ก ระวังเรื่องการพลัดตก หกล้ม
- หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีการติดเชื้อ เพราะอาจจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันทำให้เกล็ดเลือดต่ำลงอีกได้
- การทานยาแก้ปวดลดไข้ควรใช้พาราเซตามอล ไม่ใช้ยาลดไข้สูงประเภทแอสไพรินและไอบูโพรเฟน และการทานยาประเภทอื่นๆ ต้องอยู่ภายใต้แพทย์สั่งเท่านั้น
โรคเกล็ดเลือดต่ำไอทีพีในเด็กสามารถรักษาได้ หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ควรพาเด็กเข้ารับการตรวจวินิฉัยเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

พญ.ศิศีมาส สุวรรณวิจิตร
กุมารแพทย์ด้านโรคเลือดในเด็ก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 2
โทร.02-617-2444 ต่อ 3219-3220
นัดหมายแพทย์