มะเร็งปากมดลูก...ตรวจก่อน รักษาก่อน

<div class="paragraph">
<div>รู้หรือไม่ว่า&#8230;ในแต่ละปีมีผู้หญิงต้องเสียชีวิตไปกับโรคมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 55% ทั้งนี้จริงๆ แล้ว <strong><span style="color: #00826a;">“โรคมะเร็งปากมดลูก”</span></strong> สามารถป้องกันได้ โรคร้ายนี้มีสาเหตุมาจากอะไร? มีลักษณะอาการอย่างไร? แล้วปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้คุณเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก ทุกข้อสงสัย&#8230;เรามีคำตอบ!!!</div>
</div>
<h2><span style="color: #00826a;">เป้าหมายหลักการดูแลรักษาผู้ป่วย (Principle)</span><strong><span style="color: #00826a;"><br />
</span></strong></h2>
<p><span style="color: #00826a;"><strong><em>“การเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้เป็นไปตามลักษณะที่ผู้ป่วยต้องการ”</em></strong></span> เป็นเป้าหมายหลักของการดูแลผู้ป่วยแบบบรรเทาอาการของโรงพยาบาลพญาไท 1 เน้นให้การดูแลบรรเทาอาการความเจ็บปวดและลดความทุกข์ทรมานที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายหรือด้านจิตใจ&#8230;โดยดูแลครอบคลุมทั้งตัวผู้ป่วยและทั้งครอบครัวผู้ป่วย</p>
<div class="paragraph">
<h2><span style="color: #00826a;">จุดเริ่มต้นของการเกิดโรค<strong><br />
</strong></span></h2>
<p>สาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี หรือ Human Papilloma Virus ซึ่งเชื้อนี้มีมากกว่า 200 สายพันธุ์ โดยจะแบ่งกลุ่มสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งสูงหรือต่ำ ซึ่งเชื้อ HPV นี้สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัส</p>
</div>
<h2><span style="color: #00826a;">พฤติกรรมนี้&#8230;ที่ทำให้มีความเสี่ยง</span></h2>
<div class="paragraph">
<div class="contrainer-margin">
<ul>
<li>เริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 18 ปี จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่า</li>
<li>มีคู่นอนหลายคน ทำให้มีความเสี่ยงมากกว่าคนที่มีคู่นอนคนเดียวถึงสองเท่า และถ้ามีคู่นอนมากกว่า 6 คนขึ้นไป โอกาสเสี่ยงจะพุ่งสูงถึง 3 เท่าเลยทีเดียว</li>
<li>นอนกับคู่นอนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คู่นอนมีคู่นอนหลายคน หรือคู่นอนที่มีประวัติติดเชื้อ HPV</li>
<li>มีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์</li>
<li>เคยมีประวัติการเป็นมะเร็งหรือมีเซลล์เยื่อบุผิดปกติ ที่ช่องคลอดหรือที่อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก</li>
<li>มีภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ</li>
<li>มีบุตรคนแรกตอนอายุน้อยกว่า 20 ปี และการมีบุตรหลายคน</li>
<li>ทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน โดยมีการศึกษาพบว่าปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาในการรับประทานยาคุมกำเนิด</li>
<li>การสูบบุหรี่</li>
</ul>
</div>
<div class="paragraph">
<h2><span style="color: #00826a;">สังเกตอาการได้ยังไงบ้าง<strong><br />
</strong></span></h2>
<p>เพราะในระยะแรก..มะเร็งปากมดลูกไม่ค่อยแสดงอาการ การตรวจเช็คความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกให้ได้ทุกปีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเจอความผิดปกติอะไรขึ้นมา..จะได้รีบรักษาให้ทัน โดยในบางเคสผู้ป่วยอาจมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ไม่ว่าจะเป็นเลือดออกกระปริดกระปรอย ตกขาวเป็นเลือด เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือในบางเคสอาจลามไปถึงอวัยวะอื่นๆ เช่น ปวดร้าวท้องน้อย ปวดหลัง ร้าวไปถึงก้นกบ หรือต้นขา ถ่ายหรือปัสสาวะเป็นเลือด หายใจลำบาก มีอาการหอบเหนื่อยผิดปกติ</p>
</div>
<div class="paragraph">
<h2><span style="color: #00826a;">ถ้าเจอแล้ว&#8230;ต้องรีบรักษา</span><strong><span style="color: #00826a;"><br />
</span></strong></h2>
<p>การรักษามะเร็งปากมดลูกจะแบ่งตามระยะของโรค โดยแบ่งเป็น 4 ระยะตามขนาดและการกระจายของโรค ในระยะแรกอาจจะรักษาด้วยการตัดปากมดลูก หรือตัดมดลูกแบบกว้างร่วมกับการเลาะต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน แต่ถ้าเป็นในระยะลุกลามอาจจำเป็นต้องได้รับการฉายแสงใส่แร่ร่วมกับฉีดยาเคมีบำบัด เป็นต้น</p>
</div>
<div class="paragraph">
<div>แม้ว่าโรคมะเร็งปากมดลูกจะร้ายแรงและเสี่ยงเสียชีวิตได้ง่าย แต่หากคุณสาวๆ รู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลด ละ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง ควบคู่ไปกับการเข้ารับการตรวจกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ มะเร็งตัวร้าย..ก็ไม่สามารถทำลายชีวิตของคุณได้!!</div>
</div>
</div>


การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย เปลี่ยนคู่นอนหลายคน มีลูกเร็วและมีลูกเยอะ รวมไปถึงการทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

มะเร็งปากมดลูก...ตรวจก่อน รักษาก่อน

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล