โรค “ลมพิษ” สาเหตุและอาการที่ไม่ควรมองข้าม

โรคลมพิษ หรืออาการผื่นลมพิษ จะมีลักษณะเป็น ผื่นบวมนูน แดง มีขนาดไม่แน่นอน อาจคล้ายตุ่มยุงหรือมดกัด หรืออาจมีลักษณะคล้ายแผนที่ สามารถเกิดที่บริเวณผิวหนังส่วนใดของร่างกายก็ได้ บางรายอาจมีอาการบวมบริเวณเนื้ออ่อน (ภาวะแองจิโออีดีมา) เช่น บริเวณหนังตา ริมฝีปาก เป็นต้น
&nbsp;
<h2>โรคหรืออาการผื่นลมพิษ</h2>
ลมพิษมักเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด อาการเด่นๆ คือ คัน และผื่นมักจะจางหายไปภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่เหลือร่องรอยภายหลังผื่นยุบ โดยผื่นมักจะเป็นๆ หายๆ และย้ายตำแหน่งไปเรื่อยๆ กรณีหากมีภาวะแองจิโออีดีมาร่วมด้วย รอยโรคมักบวมอยู่นานเกินกว่า 24 ชั่วโมง และมีอาการเจ็บร่วมด้วย
&nbsp;
<h2>ประเภทของผื่นลมพิษ 
</h2>
โรคลมพิษหรือผื่นลมพิษ จะแบ่งตามระยะเวลาที่เกิดได้เป็น 2 ประเภท คือ
<ol>
<li>ลมพิษเฉียบพลัน (acute urticaria) โดยอาการผื่นลมพิษจะเกิดต่อเนื่องกันไม่เกิน 6 สัปดาห์</li>
<li>ลมพิษเรื้อรัง (chronic urticaria) จะมีอาการผื่นลมพิษเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเกิดต่อเนื่องกันมากกว่า 6 สัปดาห์</li>
</ol>
&nbsp;
<h4></h4>
<h2>ปัจจัยและสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคลมพิษ</h2>
<ol>
<li> อาหาร เช่น อาหารทะเล สารกันบูด สีผสมอาหารบางชนิด</li>
<li> ยา โดยร่างกายปฏิกิริยาการแพ้ยาบางชนิด</li>
<li> การติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือมีพยาธิ</li>
<li> ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคต่อมไทรอยด์</li>
<li> อิทธิพลทางกายภาพ โดยผู้ป่วยบางรายอาจเกิดผื่นลมพิษจากปฏิกริยาของผิวหนังที่ตอบสนองผิดปกติต่อความร้อน ความเย็น น้ำหนักกดรัด แสงแดด หรือการออกกำลังกาย เป็นต้น</li>
<li> แพ้สารที่สัมผัส ผื่นลมพิษเกิดขึ้นในตำแหน่งที่ผิวหนังสัมผัสกับสารที่แพ้ เช่น การแพ้ยา (Iatex) ขนสัตว์ พืช หรืออาหารบางชนิด เป็นต้น</li>
<li> ปฏิกิริยาแพ้พิษแมลง เช่น ปฏิกิริยาที่เกิดจากผึ้งหรือต่อต่อย</li>
<li> มะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือระบบอื่นๆ ของร่างกาย</li>
<li> ระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง ผู้ป่วยลมพิษบางรายเกิดจากการมีภูมิคุ้มกันไปกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารเคมีบางชนิดออกมาที่ผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นลมพิษขึ้น</li>
<li> ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งพบเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยลมพิษเรื้อรัง แม้ว่าแพทย์จะได้พยายามตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดแล้ว แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่พบ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบันยังไม่มากพอที่จะอธิบายหาสาเหตุได้ทั้งหมด</li>
</ol>
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยลมพิษยังควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ ซึ่งหากพบสาเหตุที่ก่อให้เกิดลมพิษ และผู้ป่วยสามารถหลีกเลี่ยงหรือรักษาที่สาเหตุนั้นได้ ก็จะทำให้โรคลมพิษสงบลงหรือหายขาดได้
&nbsp;
<h2>แนวทางการตรวจเพื่อหาสาเหตุของโรคลมพิษ</h2>
<ol>
<li>ซักประวัติ เช่น สิ่งกระตุ้นทางกายภาพ ยา อาหาร แมลงกัดต่อย และการติดเชื้อ</li>
<li>ตรวจร่างกายเพื่อประเมินความรุนแรงและหาสาเหตุของโรค</li>
<li>ตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือทำการตรวจเฉพาะ เช่น การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังโดยวิธีสะกิด (skin prick testing, SPT) หรือการเจาะเลือดหาสารกระตุ้นอาการภูมิแพ้ (specific IgE) โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาส่งตรวจตามข้อบ่งชี้ที่พบจากการซักประวัติและการตรวจร่างกายเป็นสำคัญ</li>
</ol>
&nbsp;
<h2>การรักษาโรคลมพิษ</h2>
<ol>
<li>พยายามหาสาเหตุและรักษาหรือหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคลมพิษ ถ้าทำได้</li>
<li>ให้ยาต้านฮีสตามีน (ยาแก้แพ้) : การตอบสนองต่อยาต้านฮีสตามีนในผู้ป่วยแต่ละรายอาจไม่เหมือนกัน ผู้ป่วยบางรายใช้ยาเพียงตัวเดียวก็ได้ผลดี แต่บางรายแพทย์อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ยาต้านฮีสตามีนในกลุ่มอื่น หรือใช้ยาหลายตัวร่วมกัน เพื่อควบคุมอาการ</li>
<li>ยาอื่นๆ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการมาก และผื่นไม่ค่อยตอบสนองต่อยาต้านฮีสตามีน แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาอื่นที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้าง และหลั่งสารสื่อกลางในผิวหนังที่เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดผื่นลมพิษ</li>
</ol>
&nbsp;
<h2>การพยากรณ์โรคลมพิษ</h2>
<ol>
<li>โรคลมพิษชนิดเฉียบพลันที่หาสาเหตุและแก้ไขได้ : เมื่อรับประทานยาต้านฮีสตามีน ผื่นลมพิษมักหายได้ 1-2 สัปดาห์ มีผู้ป่วยบางรายที่หาสาเหตุได้ไม่ชัดเจน อาจเป็นต่อเนื่องจนไม่สามารถหยุดยาแก้แพ้ได้ ซึ่งจะกลายเป็นลมพิษชนิดเรื้อรังในที่สุด</li>
<li>โรคลมพิษชนิดเรื้อรัง : ในผู้ป่วยที่ได้สืบค้นจนทราบสาเหตุและแก้ไขสาเหตุได้ เมื่อรับประทานยาต้านฮีสตามีน ผื่นลมพิษมักหายได้เช่นเดียวกับกรณีของผู้ป่วยที่เป็นโรคลมพิษชนิดเฉียบพลัน แต่ถ้าหาสาเหตุไม่พบหรือเป็นสาเหตุที่แก้ไขไม่ได้โดยง่าย โรคมักเรื้อรัง และต้องมีการปรับยาเพื่อควบคุมโรคในระยะยาว โดยใช้เวลาประมาณ 2-5 ปี จึงจะสามารถหยุดยาได้ อย่างไรก็ตามผื่นลมพิษชนิดเรื้อรังส่วนใหญ่มักจะไม่รุนแรง</li>
</ol>

ลมพิษ มีลักษณะเป็นผื่นบวมนูน แดง โดยมีปัจจัยและสาเหตุ คือ อาหาร, ยา, การติดเชื้อ, แพ้พิษแมลง, แพ้สารที่สัมผัสผิวหนัง ฯลฯ ลมพิษ โดยสามารถจางหายไปเองและเป็นใหม่ได้

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

โรค “ลมพิษ” สาเหตุและอาการที่ไม่ควรมองข้าม

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล