เวลาที่ผ่านเลยอาจทำให้คนเราแก่ตัวลงได้เท่าๆ กัน แต่การเปลี่ยนแปลงในระดับชีวโมเลกุล หรือ Biological Aging จะเป็นตัวสะท้อนความร่วงโรยในระดับเคมีและเซลล์ของคนเรา บางคนหน้าแก่เกินวัย เต็มไปด้วยริ้วรอยของกาลเวลา ขณะที่บางคนยังดูอ่อนเยาว์สดใสแตกต่างจากวัยที่ล่วงเลย
เหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ (Biological Aging) ของบุคคลที่แตกต่างและแทบไม่เหมือนกัน หมายถึงการแก่ตัวลงในระดับเคมีและเซลล์ในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพสามารถปรับเปลี่ยนให้คงความสมดุลได้ ซึ่งรวมอยู่ในศาสตร์ Anti-Aging ที่เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองแบบองค์รวมตั้งแต่การตื่นนอน ทานอาหาร ออกกำลังกาย และรวมถึงจิตใจและอารมณ์ การปรับเปลี่ยนเกิดขึ้นเฉพาะบุคคลและรวมถึงการได้รับการดูแลโดยวิตามินฮอร์โมนเพื่อปรับอายุให้เป็นไปตามความต้องการได้
Anti-Aging ตรวจลึกถึงระดับ DNA
การตรวจ Anti-Aging เป็นการตรวจความผิดปกติของฮอร์โมนและวิตามินที่ลึกถึงระดับเซลล์ โดยแพทย์จะทำการวิเคราะห์ผ่านผลเลือด จนได้ค่าความผิดปกติซึ่งมีความแตกต่างกันเฉพาะบุคคล การรักษาในระดับเซลล์ DNA นี้ทำให้ทราบว่าร่างกายของบุคคลหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนและวิตามินอย่างไรบ้าง นำไปสู่การวางแผนการรับประทานยา และการดูแลและปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละด้านที่เข้มข้นและเหมาะสมเฉพาะบุคคลนั้นจริง ๆ
ศาสตร์การป้องกันก่อนเกิดโรค
เวชศาสตร์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพเป็นศาสตร์ที่มีแนวคิดมาจาก ‘การป้องกันก่อนเกิดโรค’ โดยจะเน้นส่งเสริมให้คนทั่วไปหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเอง จากเดิมที่เน้นการรักษาโรคภัยไข้เจ็บมาเป็นการป้องกันและฟื้นฟู เพื่อให้มีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ มีสุขภาพสมบูรณ์สูงสุดตามช่วงวัย เสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ลดปัจจัยเสี่ยงของโรค และชะลอความเสื่อมโทรมของอวัยวะสำคัญในร่างกาย
การดูแลที่ลึกซึ้งแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย
-
- ไม่ใช่ศัลยกรรมเพื่อความสวยงาม เวชศาสตร์ชะลอวัยไม่ใช่การดูแลผิวหนังหรือศัลยกรรมเพื่อความสวยงาม แต่เป็นการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลที่ให้ผลลัพธ์มากกว่าการตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไป
-
- ตรวจลึกซึ้งโดยใช้วิทยาการล้ำหน้าที่สุด การตรวจตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะใช้วิทยาการทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยขึ้น เพื่อสำรวจอวัยวะและระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ลึกและละเอียดกว่าเดิม ทำให้เห็นภาพเริ่มต้นก่อนที่สัญญาณเจ็บไข้ได้ป่วยจะมาเยือน
-
- เข้าใจดีถึงการดูแลแบบองค์รวม เวชศาสตร์ชะลอวัยเป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถปรับแนวทางให้เข้ากับพื้นฐานการใช้ชีวิตและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลได้ จึงเหมาะกับบุคคลทุกเพศทุกวัยที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ
การดูแลที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
-
- เทคโนโลยีเวชศาสตร์ชะลอวัย สามารถตรวจเช็คร่างกายได้ลึกถึงระดับสารชีวโมเลกุลขนาดเล็ก ทั้งระดับฮอร์โมน สารสื่อประสาท สารต้านอนุมูลอิสระ ระดับวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เพื่อดูแลระดับสารชีวเคมีเหล่านั้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสมดุล
-
- ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ชะลอวัย ที่ให้ความสำคัญกับการพูดคุยกับคนไข้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หากไม่จำเป็นแพทย์จะไม่เริ่มต้นการรักษาด้วยยารักษาโรค แต่จะส่งเสริมให้คนไข้ปรับพฤติกรรมเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย โดยมีแพทย์คอยชี้แนะแนวทางในการใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง
การรักษาที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
-
- ร่างกายคนเรามีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องยีนส์ พันธุกรรม ฮอร์โมน ฯลฯ ดังนั้น การดูแลก็ย่อมต้องแตกต่างกันออกไปด้วย เวชศาสตร์ชะลอวัยจึงใช้การรักษาแนวทางใหม่ที่เรียกว่า Personalized Medicine หรือ Customized Medicine ซึ่งช่วยให้การดูแลสุขภาพแต่ละบุคคลมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
-
- ตัวอย่างเช่น การเจาะเลือดตรวจก็จะเป็นแบบละเอียดพิเศษ ทำให้สามารถรู้ได้ว่าร่างกายเรามีความผิดปกติทางพันธุกรรมอะไรบ้างที่อาจส่งให้ตอบสนองต่อยาบางชนิดได้มากหรือน้อยกว่าคนทั่วไป เมื่อทราบผลแพทย์ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสมกับร่างกายคนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
- การดูแลสุขภาพตามแนวทางนี้จะทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายได้รับการฟื้นฟูและป้องกันโรคอย่างตรงจุด ปลอดภัย ประหยัดระยะเวลาในการรักษา และลดโอกาสรับยามากเกินความจำเป็น ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้
ดูดีจากภายในสู่ภายนอก
-
- ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยมีบริการจัดเตรียมวิตามินและอาหารเสริมเฉพาะบุคคล หรือ Customized Vitamins เพื่อให้แต่ละบุคคลได้รับวิตามินที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเองมากที่สุด
-
- นอกจากนี้ยังมีบริการฟื้นฟูและดูแลผิวหน้าจากปัญหาต่างๆ แนะนำเคล็ดลับหน้าเด็ก รวมถึงการบำรุงผิวด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อการบำรุงซ่อมแซมความเสื่อมตามกาลเวลา เป็นการส่งเสริมให้ดูดีจากภายในสู่ภายนอก ควบคู่ไปกับการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ