
อาการแบบไหนที่เรียกว่า ‘ท้องแข็ง’
อาการท้องแข็ง คือ เมื่อเอามือไปจับบริเวณท้องจะรู้สึกได้ว่าเป็นก้อนๆ ตึงๆ และมีอาการเป็นๆ หายๆ เป็นพักๆ ในบางรายอาจมีความแข็งมาก-น้อยแตกต่างกันออกไป หรือมีอาการปวดเกร็งเสียวช่วงท้องน้อยด้วย โดยทั่วไปแล้วจะมีอาการท้องแข็งได้ วันละ 3-4 ครั้ง ในช่วงไตรมาส 3 แต่จะไม่สม่ำเสมอ
สาเหตุของอาการท้องแข็ง
- คุณแม่มีความเครียดในขณะตั้งครรภ์
- ทารกในครรภ์ดิ้นมากอาจไปโดนกับผนังมดลูก มดลูกถูกกระตุ้นจึงเกิดการบีบตัว
- มดลูกเกิดการบีบตัวเองจากกล้ามเนื้อมดลูกขาดเลือด เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คลอดก่อนกำหนด หรือแท้งได้
- การกินอาหารและมีแก๊สในกระเพาะอาหาร เมื่อใดก็ตามที่กินอาหารลงไปเยอะๆ ก็อาจไปเบียดกับมดลูกจนรัดตัวได้เหมือนกัน
- พฤติกรรมกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันอื่นๆ อาทิ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำงานหนัก มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง และการกลั้นปัสสาวะบ่อย
ดูแลตัวเองอย่างไรให้ปลอดภัยทั้งแม่และทารกในครรภ์
- ลดกิจกรรมทั้งในและนอกบ้านโดยเฉพาะงานหนัก ที่ทำให้เหนื่อยและเกิดความเครียดได้ง่าย
- เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่กระตุ้นมดลูกให้บีบรัดตัว เช่น การจับ-ลูบท้อง การเหวี่ยงหรือขยับตัวแรง ๆ และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงใกล้คลอด
- หลังมื้ออาหารควรเดินเล่นหรือนั่งพักสักครู่ก่อน ไม่ควรนอนหลับทันที เพื่อช่วยในการย่อยอาหารและไม่ทำให้เกิดอาการจุกเสียดจนท้องแข็งได้
- ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะการกลั้นปัสสาวะทำให้กระเพาะปัสสาวะโตขึ้น จนไปเบียดกับมดลูก ทำให้เกิดอาการท้องแข็งตึง
- หาเวลาพักผ่อนให้มากยิ่งขึ้น โดยการนั่งอ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือนอนหลับให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดอาการท้องแข็ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
พญ.ธาริณี ลำลึก
สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์
ศูนย์สุขภาพหญิง รพ.พญาไท 2 อาคาร A ชั้น 2
โทร 02-617-2444 ต่อ 4268-4269