ปกติร่างกายจะคายความร้อนออกมาในรูปแบบของ “เหงื่อ” เพื่อขับน้ำช่วยคายความร้อน ในขณะที่ “โรคฮีทสโตรก” คือภาวะที่ร่างกายไม่เพียงแค่ขับน้ำ…แต่ยังขับ “เกลือแร่” ออกมา ทำให้ความเข้มข้นของเลือดเป็นปกติ!! เราจึงไม่รู้สึกหิวน้ำ กว่าจะรู้ตัวว่าร่างกายขาดน้ำจนเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้…จึงมักสายเกินไป!!!

สัญญาณแบบนี้ ระวังช็อก!! เพราะฮีทสโตรก

เวลาเจออากาศร้อนมากๆ เรามักจะมีอาการปวดศีรษะเกิดขึ้นเสมอ และถ้าเมื่อไหร่…มีอาการคลื่นไส้อาเจียน กระหายน้ำ หายใจเร็ว ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีเหงื่อออก!! รวมไปถึงอาการเพ้อ เห็นภาพหลอน พูดจาไม่รู้เรื่อง ต้องทำการปรับอุณหภูมิร่างกายโดยด่วน ก่อนจะเกิดภาวะช็อกเพราะอวัยวะภายในล้มเหลวได้

โรคฮีทสโตรก…ป้องกันได้!!!

ดื่มน้ำมากๆ โดยเฉพาะในวันที่มีอากาศร้อนหรืออุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส
หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแดดจัด โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวัน
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น รถยนต์ที่จอดนิ่งกลางแดด
สวมใส่เสื้อผ้าที่เนื้อผ้าเบาบาง ระบายความร้อนได้ดีและไม่รัดแน่นจนเกินไป
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

หนุ่มสาวออฟฟิศก็เสี่ยงโรคฮีทสโตรกได้นะ…รู้ยัง??

เรามักจะโฟกัสว่าคนท่ามงานกลางแดดหรือผู้สูงอายุเท่านั้นที่เสี่ยงเกิดภาวะช็อกเพราะฮีทสโตรก แต่จริงๆ แล้ว…หนุ่มสาวออฟฟิศที่นั่งทำงานในห้องแอร์เย็นฉ่ำก็เสี่ยงไม่แพ้กัน!! ด้วยอุณหภูมิร่างกายที่คุ้นชินกับอากาศเย็นของห้องแอร์ เมื่อออกมาเจอแดดแรงๆ หรืออุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงเวลาพักกลางวัน…จึงทำให้ “ช็อก” เพราะร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทันได้นั่นเอง

ในต่างประเทศมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้จำนวนไม่น้อย…ทั้งที่อากาศเย็นกว่าเมืองไทย!! เราจึงควรหันมาให้ความสำคัญกับโรคฮีทสโตรก โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงและดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

เจออากาศร้อนขนาดนี้ ระวัง “โรคฮีทสโตรก” อันตรายถึงตายได้นะ!!

สัญญาณแบบนี้ ระวังช็อก!! เพราะฮีทสโตรก

โรคฮีทสโตรก…ป้องกันได้!!!

หนุ่มสาวออฟฟิศก็เสี่ยงโรคฮีทสโตรกได้นะ…รู้ยัง??